Skip to content Skip to footer

เมื่อ TOYOTA หันมาปลูก สตรอว์เบอร์รี!

ในขณะที่หลายองค์กรและค่ายยานยนต์ตอบรับกับกระแสลดโลกร้อน ไม่ว่าจะเป็นการหันมาใช้และผลิตรถยนต์ พลังงานสะอาด ชิ้นส่วนต่างๆทำมาจากพลาสติกและชิ้นส่วน รีไซเคิล แต่ค่ายยานยนต์ที่ผู้เขียนต้องแอบอมยิ้มให้และคิดว่า เราจะรู้คนเดียวไม่ได้แล้ว ต้องยกให้ไอเดียจากโตโยต้า เพราะ นอกจากจะใช้วิธี Go Green ทั้งหมดตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ในไลน์การผลิต ความร้อนและคาร์บอนไดออกไซด์ที่ออกมาจาก โรงงานผลิตรถยนต์นั้น เขาก็ยังไม่ปล่อยผ่าน แต่เอามาปลูก สตรอว์เบอร์รีและมะเขือเทศในโรงงานผลิตรถยนต์กันไปเลย!

ใช่ค่ะ ทุกโรงงานย่อมมีของเสียจากการผลิตที่ออกมาในรูป ของความร้อนและคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยความตระหนักใน สถานการณ์โลกร้อน โตโยต้าจึงร่วมมือกับเกษตรกรในการสร้าง เรือนกระจกในโรงงานคามิโกะที่ใช้ผลิต Toyota Crown และ Lexus สำาหรับปลูกสตรอว์เบอร์รี และโรงงานเมียวจิเพื่อปลูก มะเขือเทศ

ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวิจัยพัฒนาและการจัดการทางวิศวกรรม คุณฮิโรชิ โอกาจิมา เล่าถึงที่มาที่ไปว่า โตโยต้าอยากลองใช้สิ่งที่ ตัวเองเชี่ยวชาญเพื่อมาจัดการระบบการเกษตรที่มีประสิทธิภาพ เพราะผลผลิตการเกษตรนั้นขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมโดยรอบ เป็นหลัก ด้วยระบบ Toyota Production System (TPS) จะสามารถเพิ่มผลผลิตและผลกำไรให้แก่เกษตรกรได้อีกด้วย ซึ่งในการผลิตรถยนต์ก็ย่อมมีของเสีย เช่น ความร้อนและ คาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมา สิ่งเหล่านี้ก็ถือเป็นสิ่งที่ จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช

วามร่วมมือระหว่างวิศวกรและเกษตรกรเกิดเป็นผลผลิต ทางการเกษตรที่มากกว่าการเพาะปลูกในไร่ขนาดเท่ากันตามปกติ ถึง 1.5 เท่า เพราะการดีไซน์แปลงเพาะปลูกแบบเหนือชั้นที่จะ ใช้ทุกช่องว่างที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ผลผลิตที่ได้ ก็ไม่ได้กลายไปเป็นธุรกิจแต่อย่างใด แต่โตโยต้ากลับนำามา แจกจ่ายให้แก่พนักงานในโรงอาหารนั่นเอง!

ปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ แสงที่เหมาะสม ซึ่งคุณ ไดอิจิ ชินไค ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมการผลิตได้อธิบายว่า สำหรับสตรอว์เบอร์รีนั้น แสงจะต้องไม่มืดหรือสว่างจนเกินไป เทคโนโลยี LED จึงถูกนำมาใช้ ไม่ว่าวันนั้นจะเป็นวันฝนตก ฟ้าครึ้ม ก็ไม่เป็นปัญหา และที่ต้องเป็นแสงสีชมพูก็เพราะว่า แสงสีเขียวนั้นไม่มีความจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์แสงของพืช และแสงอัลตราไวโอเลตยังถูกนำมาใช้ในการกำจัดแบคทีเรียเพื่อ ลดการใช้ยาฆ่าแมลงให้มากที่สุด

ในส่วนเคล็ดลับความหวานอร่อยของสตรอว์เบอร์รีและ มะเขือเทศนั้น ทางบริษัทก็มีเคล็ดลับเช่นกัน โดยคุณคัตสึอิจิ มินามิ จากฝ่ายชิ้นส่วนรถยนต์ เล่าให้ฟังว่า การวัดค่าความ ต่างของอุณหภูมิที่แม่นยำระหว่างกลางวันและกลางคืนนั้น จะทำให้เรารู้เวลาและปริมาณของน้ำและปุ๋ยที่จะให้แก่พืชได้ อย่างเหมาะสมที่สุด

การปลูกพืชในโรงงานยังช่วยสร้างทัศนียภาพอันงดงาม ให้พนักงานได้มีความสุขจากการได้เห็นการเจริญเติบโตของพืช ได้ลุ้นเวลาที่เห็นผลผลิต ได้ชิมผลผลิตที่เสมือนปลูกในรั้วบ้าน อีกด้วย ทั้งอิ่มใจและอิ่มท้อง ทั้งหมดนี้เป็นผลของการนำ มุมมองใหม่ๆจากการออกแบบทางวิศวกรรมที่เรียกได้ว่า โตโยต้าได้ทำสิ่งที่เรียกว่า “เป็นระบบ” และ “ครบวงจร” โดยสมบูรณ์ เป็นโครงการตัวอย่างที่ผู้เขียนยกนิ้วให้เลยค่ะ

อ่านฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารข้ามห้วงมหรรณพ ฉบับที่ 53 สมัครสมาชิก คลิ๊กที่นี่