Skip to content Skip to footer

ท่องสู่โลกนิทานที่ Cotswolds

การขับรถเที่ยวไปตามหมู่บ้านในชนบทของอังกฤษถือเป็นความฝันของสายโรดทริป  พอมาเป็นแม่ทำให้เราเที่ยว ฉลาดขึ้น เพราะถ้ามองในมุมของผู้ใหญ่ก็จะไปแต่ที่ที่เราชอบ  แต่ตอนนี้จะพาลูกเที่ยวด้วยก็หาสถานที่ที่เหมาะกับลูก ลูกได้เรียนรู้ ทักษะเดินทาง ตัวเราก็ได้เห็นสิ่งใหม่ๆ มองอะไรกว้างขึ้น

การเดินทางไกลของครอบครัวเราจึงเกิดขึ้นโดยมีจุดหมายอยู่ที่ คอตส์โวลด์ (Cotswolds) หมู่บ้านชนบทที่ว่ากันว่าน่ารักที่สุดในอังกฤษ  ภาพของท้องฟ้าสีคราม ทุ่งหญ้าสีเขียว  มีสายน้ำเล็กๆ ไหลผ่าน บ้านสไตล์อิงลิชคอตเทจที่เรียงรายขึ้นไปตามเนินเขาเล็กๆ คล้ายกระท่อม  เป็นชั้นน่ารักๆ  ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลก แห่งนิทานวัยเด็กไม่มีผิด  และเด็กน้อย 1 ขวบ 3 เดือนที่แม่กระเตงพาเที่ยวด้วย ก็สนุกตื่นตาที่ได้เห็นโลกนิทานของจริง

คอตส์โวลด์ ตั้งอยู่ชานเมืองของอังกฤษ ไม่ไกลจาก ลอนดอน มีเมืองน่ารักๆขึ้นชื่ออยู่หลายเมือง สามารถ เดินทางได้หลายทาง จะไปรถไฟ รถบัส หรือจะซื้อทัวร์ก็ได้ ส่วนเราเช่ารถตู้เพื่อความสะดวกในการเดินทาง จุดแรกที่เรา แวะก่อนที่จะเข้า Cotswolds ก็คือ Bath

เมือง Bath ถือเป็นเมืองมรดกโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรม มีร่องรอยอารยธรรม สถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้าง ที่สมบูรณ์ของชาวโรมันหลงเหลืออยู่เยอะ

เมืองนี้เมื่อมาแล้ว ที่ที่เราต้องไปเยือนไม่พ้น The Roman Baths แลนด์มาร์กของเมือง ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุร้อนโรมัน โบราณอายุกว่า 2,000 ปีที่ปัจจุบันได้รับการบูรณะบางส่วน เพื่อเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวกึ่งพิพิธภัณฑ์เชิงประวัติศาสตร์ ที่แสดงให้เห็นวิถีชีวิตของชาวโรมันชั้นสูงในสมัยโบราณ และ ความสามารถในการก่อสร้างสถาปัตยกรรมบริเวณรอบๆ ที่นี่มีค่าตั๋วคนละประมาณเกือบ 20 ปอนด์ และยังมีสถานที่ ท่องเที่ยวอีกหลายจุดที่สามารถเดินชมได้ทั่วเมืองเลยทีเดียว

เราออกเดินทางต่อหลังรับประทานอาหาร ระหว่างทาง ที่ขับจาก Bath เข้าสู่เขต Cotswolds บรรยากาศสองข้างทาง เริ่มเปลี่ยนไป จากเมืองใหญ่ก็เริ่มเล็กลง บางช่วงก็เป็นฟาร์ม หรือป่าเขา รู้ได้เลยว่าเรากำลังเข้าสู่ชนบทแล้ว และก็ถึง จุดหมายแรกของการเดินทางมา Cotswolds คือ Castle Combe Village

CASTLE COMBE

หมู่บ้านเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ที่ขึ้นชื่อว่าสวย และบรรยากาศดีที่สุดในอังกฤษ ตอนมาถึงแม้ฝนตกพรำๆ แต่พวกเราก็ไม่พลาดที่จะไปเดินชมความน่ารักของหมู่บ้านนี้ แค่ก้าวลงจากรถตู้ก็ว้าวแล้ว หมู่บ้านนี้น่ารักมาก เหมือนเรา หลุดมาอยู่ในหนังสือนิทานที่อ่านตอนเด็ก ที่นี่มีแม่น้ำ By Brook ซึ่งเป็นแม่น้ำสายเล็กๆไหลผ่าน ยิ่งเพิ่มความน่ารัก เข้าไปอีก วิวสวยมาก บรรยากาศดีสุดๆ เราเดินเข้าไป ตามทาง เจอบ้านหลายหลัง บ้านทุกหลังสร้างด้วยหินสีน้ำผึ้ง และที่แปลกใจคือ เราพบว่าหมู่บ้านนี้มีคนอยู่อาศัยจริงๆ คือ ตอนแรกคิดว่าเป็นหมู่บ้านเก่าที่แค่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซะอีก

หมู่บ้านนี้ดูเงียบสงบและไม่พลุกพล่าน ไม่ได้มีร้านค้า เปิดกันอย่างคึกคักเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ แต่ก็มีร้าน ขายของอยู่บ้างเป็นบางจุด ที่ชอบอีกอย่างคือดอกไม้ตาม หน้าบ้าน เขาปลูกต้นไม้กันน่ารักมาก ที่เห็นเยอะจะเป็น English Rose ดูแล้วสดชื่นมากๆ หลังจากเดินเล่นชมความสวยงามของหมู่บ้านนี้กันสักพัก เราก็ขึ้นรถต่อไปยัง หมู่บ้านที่ 2 Bourton-on-the-Water

หมู่บ้านริมน้ำอีกแห่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ Bourton-on-the-Water ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เวนิสแห่ง คอตส์โวลด์ส” เนื่องจากมีแม่น้ำ River Windrush ไหลผ่าน ตลอดเส้นทาง พร้อมต้นไม้ใหญ่สร้างความร่มรื่น ที่สำคัญมีมุม ถ่ายรูปเยอะแยะไปหมด เด็กน้อยชอบหมู่บ้านนี้มาก ได้ดูเป็ด ดูปลาในน้ำ วิ่งเล่นใต้ต้นไม้ใหญ่ แถมมีไอศกรีมให้กินด้วย

นอกจากบ้านของคนท้องถิ่นแล้ว ยังมีร้านค้า ร้านอาหารต่างๆที่เปิดอย่างคึกคัก Bourton เป็นเหมือนหมู่บ้าน นักท่องเที่ยว จึงมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านของฝาก ของ ที่ระลึกเยอะแยะมากมาย แตกต่างจาก Castle Combe ที่ค่อนข้างเงียบสงบ

สำหรับเราติดใจความน่ารักของร้านเบเกอรี่ ร้านกาแฟ ในหมู่บ้านนี้ มีหลายร้านมาก บรรยากาศก็กุ๊กกิ๊กน่ารักน่านั่ง ไปซะทุกร้านเลยละ อ้อ แอบเตือนว่า ใครจะฝากท้องอาหาร เย็นที่เมืองนี้ต้องมาจองก่อน ไม่งั้นร้านเต็ม เรามัวแต่เดินชิล นั่งใต้ต้นไม้ ดูเป็ดเล่นน้ำ ฟังเสียงลำธาร พอถึงเวลาอาหาร จึงพลาดร้านน่าทานไปหลายร้านเลย แต่ก็ได้ร้าน Fish and Chips ชื่อ The Crip Ched เยียวยาหัวใจ ถือว่ารสชาติ ใช้ได้เลย กินอาหารเสร็จก็เข้าโรงแรมที่พัก จบไปหนึ่งวัน

เช้าวันรุ่งขึ้นเรายังไม่ออกจากคอตส์โวลด์ เพราะได้ปักหมุด อีกหมู่บ้านที่ต้องมาเยือนไว้แล้ว Bibury คือจุดหมายของเรา

BILBURY

เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Coln เรามา Bibury ใน ตอนเช้า ยิ่งทำให้ได้บรรยากาศของความสดชื่น ปฏิเสธไม่ได้ เลยว่าที่นี่เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในอังกฤษ มองไปทางไหนก็มีแต่ความสบายตา มีต้นไม้ใหญ่ล้อมเมือง ไม่ได้หายใจ เต็มปอดแบบนี้มานาน ในแม่น้ำเราเห็นฝูงหงส์และเจ้าเป็ด ว่ายน้ำลอยไปลอยมาอย่างมีความสุข เห็นในรูปก่อนมาว่าสวย แล้ว มาเจอของจริงต้องบอกเลยว่าสวยมากกกก หลงรักที่นี่

ไฮไลต์ของที่นี่อยู่ที่ Arlington Row เป็นกระท่อมที่สร้าง จากหินในช่วงปี ค.ศ. 1380 เริ่มแรกเดิมทีใช้เป็นโรงเก็บขนสัตว์ ก่อนจะกลายเป็นที่พักสำหรับกลุ่มผู้ทอผ้าในศตวรรษที่ 17 ถึงแม้จะผ่านไปกว่า 3 ศตวรรษแล้ว แต่ความสมบูรณ์แข็งแรง ของตัวบ้านแต่ละหลังยังคงทนทานและสวยงามจนถึงปัจจุบัน อีกหนึ่งอย่างที่คนส่วนมากจะนิยมมาชมก็คือ Bibury Trout Farm เป็นฟาร์มปลาเทราต์ หากมีเวลาอย่าลืมลองแวะชม

นอกจากนี้ภายในหมู่บ้าน Bibury จะมี Swan Hotel โรงแรมที่มีเอกลักษณ์เป็นต้นไม้เลื้อยปกคลุม เรามารู้ทีหลังว่า เป็นโรงแรมชื่อดังที่ควรไปเยือน คนส่วนใหญ่จะไปนั่งกินอาหาร ถ่ายรูปกัน แต่จะบอกว่าพวกเราก็ได้แวะเข้าไปที่นี่กัน เหตุเกิด เพราะสมาชิกต้องการเข้าห้องน้ำก่อนออกเดินทางต่อ แหม ถ้ารู้ว่าเป็นโรงแรมดัง เราจะได้เข้าบ้าง แต่พวกเราเห็นกระจก ที่โรงแรมก็ได้ถ่ายรูปเซลฟีแล้วหนึ่ง เก็บเป็นที่ระลึกว่าเราได้ มาเยือนแล้ว

OXFORD

ต่อจากคอตส์โวลด์ เรามุ่งหน้าไปออกซฟอร์ด เมื่อไปถึง สถานที่แรกเริ่มต้นที่ Covered Market ตลาดใจกลางเมือง เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 8.00-17.30 น. เราแวะกินข้าวเที่ยงที่ร้าน ข้าวแกงของคนไทย ต้องรีบกินรีบไปเพราะคนในร้านเยอะมาก แถมคนรอต่อโต๊ะอีกเพียบ ซึ่งมีแต่ชาวต่างชาติทั้งนั้นเลย

หลังจากนั้นเราเดินเล่นซื้อขนมกิน ตลาดนี้มีทั้งร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายผลไม้ ร้านเค้ก ร้านดอกไม้ ร้านขายของ ที่ระลึก คือเรียกได้ว่าสามารถหาทุกอย่างได้ที่ตลาดนี้

ถัดจากตลาด เราออกมาเดินเล่นเที่ยวชมเมือง มาออกซฟอร์ดต้องไม่พลาดเยี่ยมชม University of Oxford มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในสถานที่ ที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter ที่โด่งดังที่สุด ในยุค 2000 และเป็นศูนย์รวมของสถาปัตยกรรมสมัยกลาง กอทิก และนีโอคลาสสิก ที่เราพบเห็นได้ตลอดทางเดิน

ห้องสมุด Radcliffe Camera ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่สวยงามของ เมืองนี้ ซึ่งคำว่า “Camera” ในที่นี้หมายถึง “ห้อง” ในภาษาละติน ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงหลายท่าน จุดเด่นของห้องสมุดแห่งนี้ คือ ลักษณะตัวอาคารที่มีความ สวยงามและมีความเป็นเอกลักษณ์ โดยมีหลังคาเป็นวงกลม ซึ่งถือเป็นอาคารห้องสมุดวงกลมที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศอังกฤษ

หากใครมาอังกฤษและเที่ยวลอนดอนจนเบื่อ แนะนำา one day trip ที่ออกซฟอร์ด ซึ่งเดินทางง่ายมากๆ สามารถ ขึ้นรถไฟจากลอนดอน โดยใช้เวลาเพียง 1.20 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ที่ออกซฟอร์ดยังมีที่ให้เยี่ยมชมอีก หลายที่ ถ้ามีโอกาสจะกลับมาอีกแน่นอน เผื่ออีกหน่อย เด็กชายจะได้มาเรียนที่นี่กับเขาบ้าง (หัวเราะ)

จากออกซฟอร์ด เรานั่งรถกลับลอนดอน ใช้เวลา 1 ชั่วโมงนิดๆก็ถึง แวะเดินเล่นในเมืองและหาข้าวกิน เป็นอัน จบทริป 2 วัน 1 คืน จาก London – Bath – Cotswolds – Oxford – London

Family Trip ครั้งนี้ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆในต่างแดน หลายอย่าง ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน ได้ทำอะไรหลาย อย่างที่ไม่เคยทำ และสุดท้ายเป็นการเปิดโลกกว้างให้เด็กน้อย ได้ปรับตัวเเละเรียนรู้สิ่งใหม่ จนสามารถใช้ชีวิต 14วันใน ต่างแดนได้อย่างมีความสุข แล้วแม่จะหมั่นพาเราไปสัมผัส โลกกว้างใบนี้อีกนะครับ

ทริปการเดินทาง

– สภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวนแนะนำาให้ติดร่มไปด้วย
– หากต้องการเดินทางด้วยรถไฟ แนะนำาให้จองล่วงหน้าเพื่อได้ราคาที่ถูกกว่า
– สัญญาณโทรศัพท์ไม่ค่อยคงที่ แนะนำาให้หาข้อมูลก่อนเดินทาง
– Citymapper อีกหนึ่ง แอพพลิเคชั่นที่เป็นตัวช่วยในการเดินทาง
– หากต้องการเข้า Warner Bros. Studio Tour London ต้องจองล่วงหน้า