Skip to content Skip to footer

พัทลุง

พัทลุงเมืองเล็กๆ​น่ารัก​แต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงมากนัก​การเดินทางมาในครั้งนี้เลยพิเศษกว่าครั้งไหนๆ​เพราะเป็นการกลับมาเริ่มต้นใหม่ยังจุดเริ่มต้นของชีวิต​หลังจากที่ออกไปใช้ชีวิตวุ่นวายในเมืองหลวงมากว่าสิบปี

เรามาถึงตัวเมืองพัทลุง​จุดศูนย์รวมของการเดินทาง​มองบรรยากาศไปรอบๆ​ไม่ค่อยมีอะไรต่างจากเดิมมากนัก​เป็นเพราะพัทลุงเป็นเมืองที่พัฒนาไปอย่างช้าๆ​จนเป็นภาพเมืองที่คุ้นตา​เห็นจะมีแต่ห้างเล็กๆ​ขนาด​3​ชั้น​ที่ถูกสร้างแทนที่โรงหนังเก่า​แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำาให้รู้สึกเปลี่ยนไปเท่าไหร่​ไม่ไกลจากตัวเมือง​หากมองไปทางฝั่งสถานีรถไฟ​จะเห็นภาพทิวทัศน์ภูเขาอกทะลุ​ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่เมื่อมาพัทลุงแล้วต้องแวะถ่ายรูป

จริงๆ​แล้วพัทลุงมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานกว่าพันปี​​มีหลักฐานในเอกสารเฮนรี​เบอร์นีย์ของอังกฤษ​เรียกชื่อเมืองพัทลุงไว้ว่า​Bondelun​หรือ​Merdelong​(เมอร์เดอลอง)​ในภาษาฝรั่งเศส​ซึ่งหมายถึงเมืองช้างหรือเมืองที่เกี่ยวเนื่องด้วยช้าง​เพราะฝั่งที่ติดอยู่กับเทือกเขาบรรทัดนั้นมีช้างป่าชุกชุมนั่นเอง

แม้ที่นี่จะเป็นเมืองรอง​แต่ก็เป็นเมืองรองที่ไม่เป็นรองใคร​ด้วยภูมิประเทศที่มีทั้งภูเขาสูงสลับซับซ้อน​พื้นที่ลูกคลื่นลอนชัน​(พื้นที่เนินเตี้ยๆ)​ที่เรียกเป็นภาษาท้องถิ่นว่า​“ควน”​และเกาะบริเวณทะเลสาบสงขลา​ทำาให้เกิดสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอันงดงามของภาคใต้​เขา​ป่า​นา​เล​อีกทั้งยังเป็นต้นกำาเนิดของหนังตะลุงและมโนราห์​ที่ได้รับอิทธิพลมาจากแหลมมลายู​ศิลปะการแสดงพื้นบ้านมโนราห์เป็นที่สนใจของชาวต่างบ้านต่างเมืองอีกครั้ง​เมื่อ​UNESCO​ยก​“มโนราห์”​เป็นมรดกโลกเมื่อปี​2564​ที่ผ่านมา

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นความภูมิใจของคนพื้นเมือง​คือ​พระคู่บ้านคู่เมือง​พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ​หรือพระสี่มุมเมือง​ที่ในหลวงรัชกาลที่​9​โปรดเกล้าฯ​ให้สร้างขึ้นตามความเชื่อโบราณที่จะต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องขอบขัณฑสีมาทั้งสี่ทิศ​ประดิษฐานอยู่ภายในศาลาระหว่างศาลากลางจังหวัดกับศาลจังหวัดพัทลุง​

เอาล่ะ​รู้จักกันพอหอมปากหอมคอแล้ว​เจ้าถิ่นอย่างเราขออาสาพาเที่ยว​ลัดเลาะทำาความรู้จักสถานที่ที่เจ้าบ้านอย่างเราภูมิใจนำาเสนอ​รวมถึงสถานที่ที่เชื่อว่าจะทำาให้ทุกคนหลงรักเมืองเล็กๆ​น่ารักแห่งนี้เหมือนกับเราแน่นอน​

ยกยอยักษ์ คลองปากประ

สถานที่แรกที่เราอยากพาไป​คือ​คลองปากประ​สถานที่ที่ได้ชื่อว่า​เป็นป่าพรุขนาดใหญ่แห่งสุดท้าย​และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของพัทลุง​​คลองปากประเกิดจากลำาน้ำาหลายสายไหลมารวมกัน​ก่อนไปบรรจบที่ทะเลสาบสงขลา​ที่นี่ยังคงวิถีประมงแบบดั้งเดิมที่ทำากันมาอย่างยาวนาน​นั่นคือ​การใช้ยอขนาดยักษ์ตกปลา​กลายเป็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครในพื้นที่แห่งนี้​

อุทยานนกน้ำทะเลน้อย

เรานั่งเรือลอดใต้สะพานเฉลิมพระเกียรติฯ​ไปถึงทะเลน้อย​แหล่งพื้นที่ชุ่มน้ำา​หรือแรมซาร์ไซต์ทะเลน้อย​(Ramsar​Site)​ที่สำาคัญระดับโลก​ทะเลน้อยเป็นแหล่งห้ามล่าสัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย​มีเนื้อที่ครอบคลุม​3​จังหวัด​คือ​พัทลุง​สงขลา​และนครศรีธรรมราช​ธรรมชาติในพื้นที่ทะเลน้อย​มีนกน้ำานานาชนิด​ซึ่งเป็นภาพที่หาชมได้ยาก

สะพานเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา

มาถึงทะเลน้อยแล้ว​อีกหนึ่งจุดที่ห้ามพลาด​คือ​สะพานเฉลิมพระเกียรติฯ​80​พรรษา​เป็นสะพานข้ามทะเลสาบที่ยาวที่สุดในประเทศไทย​เริ่มจากทะเลน้อย​อำาเภอควนขนุน​จังหวัดพัทลุง​ไปสู่อำาเภอระโนด​จังหวัดสงขลา​เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่เป็น​A​Must​ด้วยทัศนียภาพที่มองเห็นทะเลสาบสุดลูกหูลูกตา​นกนานาชนิด​และเหล่าฝูงควายน้ำา​ตลอดเส้นทางสะพานมีจุดชมวิวอยู่เป็นระยะ​ได้เห็นวิวทิวทัศน์และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติของทะเลน้อยทั้งสองฝั่ง

ตลาดป่าไผ่สร้างสุข

อิ่มตาอิ่มใจแล้ว​เราไปอิ่มท้องกันต่อที่ตลาดป่าไผ่สร้างสุข​(สวนไผ่ขวัญใจ)​ตลาดที่ร่วมกันสร้างเศรษฐกิจชุมชน​ขายสินค้าและอาหารที่มาจากท้องถิ่น​สร้างอาหารจากธรรมชาติที่ปลอดภัยกับผู้บริโภค

นอนฟังเสียงสายน้ำา ที่บ้านต้นไม้ร้อยหวัน

โฮมสเตย์ที่แทรกตัวอยู่ในป่าต้นน้ำากับความสุขที่ไม่ปรุงแต่ง​อยู่ร่วมกับชุมชนในเทือกเขาบรรทัดอย่างเงียบสงบและเรียบง่าย​ไร้เครื่องอำานวยความสะดวก​มีเพียงแอร์ธรรมชาติที่อุณหภูมิ​25​องศาตลอดทั้งปี​กับดนตรีบรรเลงเพลงธรรมชาติจากลำาธารที่ไหลผ่านที่พัก​บำาบัดจิตใจให้ผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี​อากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางผืนป่ากับกลิ่นไอเย็นชุ่มน้ำาทำาให้กล้าหายใจได้เต็มปอด​ได้มาทอดกายผ่อนคลายที่โฮมสเตย์เท่ๆ​ใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ​เหมือนได้มาชาร์จพลังทั้งกายและใจ

Travel tips

  • การเดินทางไปพัทลุง วิธีที่ง่ายที่สุด คือนั่งเครื่อง บินไปลงที่ จ.ตรัง โดยจะมีรถประจำาทางไปยังสถานี ขนส่งพัทลุง
  • สามารถนั่งตุ๊ก ตุ๊กเข้าเมือง วนรอบเมือง รวมถึง ไปยังที่พัก โดยสามารถต่อราคาได้
  • ไม่แนะนำให้ไปท่องเที่ยววันอาทิตย์ เพราะร้านส่วน ใหญ่จะเปิดครึ่งวัน ยกเว้นในตลาด