มาเพิ่มความเฟรช คลายความร้อน
ท่ามกลางอากาศร้อนระอุจนแทบละลาย เตรียมบอกลาความร้อน รถติด ฝุ่นควัน PM2.5 ที่ไม่ดีต่อปอด แล้วออกมาพบความสดชื่น รับลมเย็นบริสุทธิ์ ผ่อนคลายริมชายทะเล ลงเล่นน้ำให้ชุ่มฉ่ำ บนเกาะที่เพียบพร้อมด้วยความสมบูรณ์ของธรรมชาติ แต่ไม่ขาดสิ่งอำนวยความสะดวก เต็มอิ่มกับที่กิน ที่พัก และที่เที่ยว ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เกาะช้าง จังหวัดตราด ยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดฮิตตลอดกาล โดยเฉพาะช่วงซัมเมอร์ ถ้าไม่รู้ จะแวบไปไหนดี เชิญไปคลายความร้อน เพิ่มความเฟรชที่เกาะช้างด้วยกันครับ
เกาะช้างเลี้ยวซ้าย
เกาะช้างเป็นเกาะใหญ่อันดับสามของไทย (รองจากภูเก็ต และสมุย) และใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก ด้วยความที่มีขนาด มหึมา เกาะช้างจึงมีหาดสวยๆ ที่ดึงดูดเสียเหลือเกิน ปกติแล้ว หลังจากที่ขับรถออกจากเรือเฟอร์รี่ นักท่องเที่ยวมักเลี้ยวขวา เพื่อมุ่งหน้าสู่ที่พัก แต่ด้วยครั้งนี้เราเผื่อเวลาเดินทางจึงข้ามฝั่ง ไปเร็วและมีเวลาเหลือพอสมควร หลังจากที่ใช้เวลาเซิร์ชหา ข้อมูลคร่าวๆ ระหว่างนั่งเรือข้ามฟาก ได้ไปเจอรีวิวเกาะช้างทาง ฝั่งซ้ายที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวไปมากนัก ทันทีที่รถขับออกจาก เรือเฟอร์รี่ก็รีบเปิดไฟเลี้ยวซ้ายและมุ่งหน้าไปตามรีวิวนั้น สวม วิญญาณนักสำรวจ ความรู้สึกตอนนั้นคือ ตื่นเต้นมากว่าจุดที่ จะไปสวยจริงหรือจกตา ตลอดสองข้างทางจะมีชุมชนอยู่เป็น ระยะๆ สลับกับสวนผลไม้ สวนยางพารา และป่าเขาตลอด เส้นทาง ในฝั่งซ้ายเป็นที่ตั้งของผืนป่าชายเลนที่ใหญ่ที่สุดบน เกาะช้าง คือ ป่าชายเลนบ้านนาใน สลักเพชร เส้นทางศึกษา ธรรมชาติป่าชายเลน หรือที่เรียกว่า “สะพานแดงสลักเพชร” บรรยากาศเงียบสงบ มีความเป็นธรรมชาติแบบไม่ปรุงแต่ง เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ระหว่างทางได้มีโอกาสถามเจ้าของ ร้านขายของชำ ซึ่งคุณลุงได้พูดติดตลกด้วยสำเนียงท้องถิ่น “ฝั่งนี้ไม่ได้เป็นที่ลับอะไรหรอก แต่ไม่ค่อยมีใครรู้”
UNSEEN เกาะง่าม
ไม่ว่าจะด้วยความบังเอิญหรือโชคชะตาที่ทำให้ได้มาพบ เกาะง่าม ซึ่งเป็นเกาะที่มีความงามซ่อนตัวอยู่มากมาย ตั้งอยู่ บริเวณปลายสุดของแหลมอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ชายหาด สองฝั่งจะเว้าเข้าหากัน เมื่อไปถึงจุดจอดรถต้องเช่าเรือคายัก ไปยังเกาะง่าม ในหัวตอนนั้นคิดแค่ว่าขอให้ตรงปกด้วยเถิด พอพายใกล้ถึงฝั่ง น้ำทะเลใสมาก มองเห็นก้อนหินและปลา ตัวเล็กๆ ได้เลย อยากจะบอกว่าภาพที่เห็นด้วยตาสวยกว่า รูปที่ถ่ายด้วยซ้ำ เบื้องหน้าเป็นหาดทรายขาว มีต้นมะพร้าว เรียงราย สายลมพัดเอื่อยๆ แทบไม่มีผู้คน ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง จนรกตา และที่นี่ไม่มีรีสอร์ต ทุกอย่างช่างเป็นใจกับวันพักผ่อน เหลือเกิน เสียดายที่ไม่ได้ติดเปลญวนกับหนังสือสักเล่มมาด้วย เพียงแค่ได้ถอดรองเท้าแล้วเดินเลาะริมหาด เท่านี้ก็อิ่มเอิบแล้ว
ความสงบที่ LONG BEACH
ลืมความคึกคักและสีสันของเกาะช้างไปได้เลยเมื่อมาที่ หาดทรายยาว มีความยาวของหน้าหาดสมชื่อจริงๆ และที่นี่ จะมีรีสอร์ตเดียวคือ ลองบีชรีสอร์ต เป็นหาดส่วนตัวที่เงียบสงบ น้ำใส ทรายขาว ผู้คนไม่พลุกพล่าน นักท่องเที่ยวที่เข้ามา จะเป็นชาวต่างชาติเสียส่วนใหญ่ ห้องพักที่นี่มีลักษณะคล้าย กระท่อมริมทะเลและมีเพียงไม่กี่ห้อง เพราะเป็นหาดที่ทางเข้า ซ่อนตัวอยู่ตรงเนินเขา ผู้คนไม่ค่อยรู้จัก เอาเป็นว่าหากใคร ต้องการหลีกเร้นความวุ่นวาย ไปพักกายพักใจ หาดทรายยาว เป็นสถานที่ตอบโจทย์อย่างแน่นอน
เกาะช้างฝั่งที่คุ้นเคย
ถึงแม้ว่าเกาะช้างจะไม่ใช่เกาะใหม่ที่เพิ่งค้นพบ และยังคง ความนิยมชนิดที่เรียกว่าติดลมบนไปแล้ว ด้วยความที่มีสิ่ง อำนวยความสะดวกครบ เดินทางง่าย สำหรับนักท่องเที่ยว ชาวแบ็กแพ็กเกอร์ก็ยังมีรถมอเตอร์ไซค์ให้เช่าหรือรถสองแถว ให้บริการ แม้ว่าเกาะแห่งนี้จะมีความเจริญเข้ามาเยือนอย่างไม่ หยุดยั้ง แต่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติสูงอยู่เสมอ และถูกประกาศเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จึงไม่แปลกใจที่เราจะเห็นร้านค้า รีสอร์ต สลับกับสีเขียวๆ ของต้นไม้และภูเขาอยู่ตลอดทาง
ครั้งนี้เลือกพักที่เคซีแกรนด์ รีสอร์ต เกาะช้าง (KC Grande Resort Koh Chang) เลือกห้องหน้าหาดกันไปเลย อะไรจะดีไปกว่าการเปิดม่านออกมาเห็นวิวทะเล เดินทอดน่อง บนหาดทราย และนอนฟังเสียงคลื่นซัดฝั่งยามค่ำคืน หลังจาก ที่เอ้อระเหยดื่มด่ำกับวิวและเอนตัวกันสักพักใหญ่ๆ ถึงเวลา อาหารเย็น เราบึ่งรถไปหาร้านอาหารทะเล บรรยากาศดีๆ ครั้งนี้เลือกไปที่ร้านเกาะช้างซีฟู้ด (Koh Chang Sea Food) จัดเต็มกันมากสำาหรับมื้อนี้ นอกจากอาหารรสชาติถูกปากแล้ว ไฮไลต์ระหว่างรับประทานอาหารคือ การโชว์ควงกระบองไฟ ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับมื้อนี้ด้วย
สำรวจใต้ท้องทะเลเกาะช้าง
เช้าวันรุ่งขึ้นฟ้าฝนเป็นใจ บรรยากาศข้างนอกแสงแดด ดีมาก ภารกิจวันนี้คือการดำน้ำนั่นเอง เป็นกิจกรรมยอดฮิต สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเกาะช้าง เพราะทะเลที่นี่ยังคงมีความ สวยงามและมีความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเล โปรแกรม ที่ซื้อวันนี้คือ จุดดำน้ำหมู่เกาะรัง เป็นจุดดำน้ำตื้นที่สวยที่สุดใน ท้องทะเลตราด โดยเริ่มจากเกาะยักษ์ใหญ่ที่มีไซซ์จริงสวนทาง กับชื่อ โลกใต้ท้องทะเลของเกาะนี้มีหมู่ปลาและแนวปะการัง ที่อุดมสมบูรณ์อยู่รอบเกาะ จุดเด่นของที่นี่คือ แนวปะการัง เขากวางสีน้ำเงินที่มีเยอะมาก และฝูงปลาขนาดใหญ่จำนวน นับไม่ถ้วน
ขึ้นเรือต่อมาที่เกาะยักษ์เล็กที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เมื่อลงไปดำน้ำที่เกาะนี้ ความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแอเรียล ในการ์ตูนเงือกน้อยผจญภัย (The Little Mermaid) เพราะ รอบตัวถูกรายล้อมด้วยฝูงปลามากมาย ด้วยวันนี้แดดดีจึง มองเห็นดอกไม้ทะเล หอยเม่น และปะการังอย่างชัดเจน
และอีกหนึ่งไฮไลต์อยู่ที่เกาะรัง หลังจากที่รู้สึกเหนื่อย จากการดำาน้ำามาจากเกาะยักษ์ใหญ่ ยักษ์เล็กมาแล้ว ก็ขึ้นมา ยืดเส้นยืดสายที่เกาะรังแห่งนี้ มีสะพานอิฐบล็อกทอดยาวจาก ชายหาดลงไปในทะเล มองไปจะเห็นหาดทรายขาวละเอียด ที่สะท้อนกับแสงแดดจนแทบแสบตา เป็นเกาะที่นิยมขึ้นไป ถ่ายรูป อาบแดด เดินชมรอบๆ ถึงแม้จะเป็นเกาะที่มีพื้นที่ พอสมควร แต่ก็ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ เห็นแต่เพียงนักท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่อุทยานเท่านั้น สำาหรับการเดินทางมาเกาะรัง ยังสามารถมาทางเกาะกูดได้อีกด้วย
นอกจากกิจกรรมดำน้ำแบบสนอร์เกิลลิง สำหรับมือใหม่ แล้ว ที่เกาะช้างยังเป็น Destination ในการดำน้ำแบบสคูบา ไดฟ์วิงและฟรีไดฟ์วิง โดยจุดที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือเรือหลวงช้าง ซึ่งเป็นซากเรือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ถูกนำมาทำเป็นแนว ปะการังเทียมที่เกาะช้าง นักดำาน้ำสามารถดำน้ำได้ที่ระยะ ความลึกประมาณ 23 เมตร ที่นี่เป็นแหล่งปะการังเทียมที่มี ฝูงปลาเยอะมาก และไม่ควรพลาดการถ่ายภาพกับธงชาติ ที่มัดติดไว้ตรงยอดเสากระโดงเรือ
ลัดเลาะรอบเกาะ
วันสุดท้ายก่อนที่จะกลับ เราขับรถออกไปสำรวจรอบๆ เรียกว่าอัปเดตเกาะช้างก็ว่าได้เริ่มต้นด้วยกาแฟสักคนละแก้วที่ บ้านกาแฟเกาะช้าง ร้านเล็กๆ บรรยากาศดูร่มรื่น อยู่ริมถนน แต่ความพิเศษ คือ กาแฟที่นำมาชงเป็นกาแฟที่ทางร้านปลูก เองบนเกาะช้างและคั่วบดเอง เชื่อว่าต้องถูกใจคอกาแฟอย่าง แน่นอน
จุดเช็กอินต่อมาค่อนข้างลึกลับพอสมควร ขนาดหมุด ที่ปักยังไปแค่หน้าปากทางเข้า คงเป็นอีกเหตุผลที่ยังไม่ค่อย มีคนรู้จัก นั่นคือ Hidden Paradise แค่ทางเข้าก็ทำเอาใจ ไม่ดีแล้ว เพราะกลัวคำว่า Hidden จะแปลว่าลี้ลับ แต่เมื่อ ไปถึง ภาพที่เห็นเป็นลำธารใสๆ ไหลเอื่อยๆ จากน้ำตกสี่ท่อ บรรยากาศรอบข้างคือแมกไม้เขียวขจี มีร้านส้มตำรสจัดจ้าน ของคุณลุงคุณป้าผู้ใจดียิ้มแย้มรับผู้มาเยือน ก่อนกลับก็ไม่ พลาดที่จะนั่งจุ่มขาในธารน้ำตามที่เขารีวิว ทุกท่านเชื่อไหม เป็นความรู้สึกชิลและผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ
เราไม่พลาดที่จะมาแวะตลาดบางเบ้า ชุมชนชาวประมง ที่อยู่บริเวณนั้น อุดหนุนสินค้าชาวบ้านที่มีให้เลือกมากมาย ทั้งอาหารทะเลแปรรูป งานหัตถกรรม เสื้อผ้า เมื่อเดินเลย ร้านค้ามาสุดปลายสะพานจะมีประภาคารตั้งโดดเด่น เป็นอีก แลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป และช่วงเย็นสามารถ รอดูวิวพระอาทิตย์ตกได้อีกจุดหนึ่ง
ระหว่างทางกลับที่พักขอแนะนำาอินดีบีช คาเฟ่เล็กๆ ที่ ซ่อนตัวอยู่ เมื่อเดินเข้ามาในร้านให้บรรยากาศเหมือนคาเฟ่ริมหาดที่เกาะฮาวายเลยก็ว่าได้ ทั้งการตกแต่งที่เจ้าของร้าน บอกว่าเป็นสไตล์บีชทรอปิคัล และเราสามารถเลือกนั่งได้ตาม ใจชอบ ไม่ว่าจะนั่งโต๊ะ นอนเปล หรือบีนแบ็กหน้าหาด ดีทุกจุด ในส่วนของอาหารมีความนานาชาติมาก ทั้งส้มตำา พาสต้า ซูชิ และเครื่องดื่มสมูทที
และปิดท้ายด้วยจุดชมวิวไก่แบ้ เป็นอีกแลนด์มาร์กที่ให้ ไปรัวชัตเตอร์กันจุใจ เราสามารถชมความสวยงามของวิวทะเล เกาะช้างแบบ 180 องศา เป็นวิวทะเลสีคราม แถมยังเห็น เกาะน้อยใหญ่อยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา เรียกได้ว่าชมวิวเพลินจนลืม เวลาไปเลย นับว่าคุ้มค่ามากๆ ที่ได้มาเติมพลังใจกับธรรมชาติ