Skip to content Skip to footer

เยอรมนี – เที่ยว 3 เมืองเก่าฝั่งเยอรมนีตะวันออกเยอรมนี

หากพูดถึงเมืองในประเทศเยอรมนี เราอาจคุ้นหูกับมิวนิก แฟรงก์เฟิร์ต หรือเบอร์ลิน เป็นส่วนใหญ่ ครั้งนี้ผมจึงอยากพาไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ที่น่าสนใจในย่านเยอรมนีตะวัน ออกบ้าง เราจะนั่งรถไฟลัดเลาะไปตาม 3 เมืองเก่า อย่างเดรส เดน (Dresden) แอร์ฟวร์ท(Erfurt) และไลพ์ซิช (Leipzig) ใน แบบ Slow life ไปแบบค่อยๆ ซึมซับบรรยากาศ.. ทริปนี้จะมี อะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันครับ

หลังจากลัดฟ้ามาถึงสนามบินนานาชาติ Frankfurt Flughafen แล้ว ผมนั่งรถไฟต่อไป เมืองไลพ์ซิชที่ห่างออกไป 400 กม. โดยรถไฟความเร็วสูง ICE ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3.20 ชั่วโมง ซึ่งจะออกทุกๆ ชั่วโมง ตั๋วเขาก็มีหลายแบบ ทั้ง ชั้น 1 และชั้น 2 แบบระบุที่นั่งหรือไม่ระบุ ราคาก็จะต่างกัน ไป ปรกติผมก็เลือกชั้น 2 ไม่ระบุที่นั่ง ซึ่งแม้เราสามารถเลือก นั่งได้ตามสบาย แต่ถ้าหากสถานีต่อๆ ไปมีคนซื้อตั๋วระบุที่นั่ง ตรงที่เรานั่งพอดี เราก็ต้องลุกไปหาที่นั่งใหม่ ซึ่งผมก็ไม่เจอ บ่อยนัก

พอรถไฟเริ่มเข้าเขตที่เคยเป็นเยอรมนีตะวันออก บ้านเรือน ก็จะแตกต่างไปอย่างเห็นได้ชัด สถานีไลพ์ซิชเป็นสถานีใหญ่มาก ซึ่งน่าจะเป็นสถานีที่มีพื้นที่ใหญ่สุดในยุโรปด้วย สถานีนี้สวยงาม มาก ภายในสถานีมีร้านค้าร้านอาหารมากมาย ผมจองโรงแรม ที่อยู่ตรงข้ามสถานีเลย เดินลากกระเป๋า 5 นาทีก็ถึงแล้ว ทริปนี้ อยากเที่ยวแบบสบายๆ เลยจองโรงแรมที่ไลพ์ซิชยาวๆ ไม่ต้อง เปลี่ยนที่นอนและแพ็กกระเป๋าใหม่ ทำาให้ได้เที่ยวเต็มที่

Dresden | ดื่มด่ำากับเมืองแห่งศิลปะ

หลังจากได้ปักหลักแล้ว ผมเริ่มทริปด้วย เมืองเดรสเดน (Dresden) มหานครที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเยอรมนี อยู่ห่าง จากไลพ์ซิชประมาณ 1 ชั่วโมงโดยรถไฟ ซึ่งมี 3-4 เที่ยวต่อ ชั่วโมง เมืองเดรสเดนนี้เป็นเมืองหลวงของแคว้นซัคเซิน (Saxony) เป็นเมืองศูนย์กลางทางศิลปวัฒนธรรมของยุโรปตะวัน ออก มีแม่น้ำาเอลเบอ (Elbe) ขนาดพอๆ กับแม่น้ำาเจ้าพระยา ไหลผ่าน ด้วยความสวยงามและเก่าแก่ของเมือง จึงได้ชื่อว่าเป็น “Florence on the Elbe”

ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองเก่าเดรสเดนถูก ถล่มจากระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรจนราบเป็นหน้ากลองทั้ง เมือง ชาวเมืองช่วยกันระดมทุนเพื่อนำามาบูรณะสิ่งก่อสร้าง ขึ้นมาใหม่ในสภาพเดิม ปัจจุบันเราจะเห็นความอลังการของ สถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อย่างสวยงามไม่แตกต่างจาก สมัยก่อน

Erfurt | ความงดงามไร้กาลเวลา

วันที่สอง จุดหมายปลายทางของผมคือเมืองแอร์เฟิร์ต (Erfurt) เลือกรถไฟ ICE เหมือนเดิม ใช้เวลาเพียง 40 นาทีก็ ถึงสถานีเมืองแอร์เฟิร์ต เมืองนี้เป็นเมืองหลวงของแคว้นทือริง เงิน (Thuringen) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในฐานะที่มาร์ติน ลูเทอร์ (Martin Luther) ซึ่งเป็นบาทหลวงที่เป็นผู้นำาในการ แยกศาสนาคริสต์ออกมาเป็นนิกายโปรแตสแตนต์ เริ่มต้นชีวิต การเป็นพระที่เมืองนี้

เดินออกจากสถานีเราก็เริ่มเดินชมเมืองซึ่งสวยงามมาก เมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองที่ไม่ได้ถูกทำาลายไปในสงครามโลก ทำาให้ตัวเมืองเกือบทั้งเมืองยังคงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม และบ้านเรือนแบบเยอรมนีดั้งเดิมอยู่ ไฮไลต์ของที่นี่คือ Erfurt Dom หรือที่รู้จักกันในชื่อ St Mary’s Cathedral เป็น อาคารโบสถ์ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในเมืองแอร์เฟิร์ต ด้านบน สุดมีระฆังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป หนักถึง 11 ตันทีเดียว

Leipzig | วัฒนธรรมร่วมสมัย

วันสุดท้ายไม่ต้องนั่งรถไฟ ICE ไปเมืองอื่นแล้ว เที่ยวในบริเวณเมืองไลพ์ซิช ได้ตลอดทั้งวัน ไลพ์ซิช เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นซัคเซิน เป็นเมืองที่ได้ รับรางวัล “ที่สุดของเมืองในยุโรปจาก Urbanism Awards 2019” เมืองไลพ์ซิชเป็นเมืองแห่งดนตรี มี นักดนตรีคนสำคัญ เช่น Johann Sebastian Bach, Felix Mendelssohn Bartholdy, Edvard Grieg, Gustav Mahler, Clara และ Robert Schumann ทำงานที่เมืองนี้

ไลพ์ซิชมีเสน่ห์ตรงความคอนทราสต์ คือ เป็นเมืองที่วัฒนธรรมมาบรรจบกับความทันสมัย เพราะที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจหลายแห่งมาก อาทิ Volkerschlachtdenkmal อนุสาวรีย์ที่ระลึกในชัยชนะจากการรบเพื่อปลดปล่อยเมืองจากการปกครองของนโปเลียน โบนาปาร์ตโบสถ์ Nikolaikirche มีอายุมากกว่า 850 ปี เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองไลพ์ซิช Altes Rathaus หรือ Old Town Hallปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่ถือเป็นแลนด์มาร์กของเมือง โทมัสเคียร์เชิน (โบถส์โทมัส) สถานที่ฝังศพของ JohannSebastian Bach เป็นต้น

อ่านฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารข้ามห้วงมหรรณพ ฉบับที่ 53 สมัครสมาชิก คลิ๊กที่นี่