Skip to content Skip to footer

กรรมตัดรอน

อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล

ชาวพุทธกับการปฏิบัติธรรมมักหนีกันไม่พ้นเพราะกลัววิบากกรรม กับการภาวนาเพื่อสะสมบุญกุศล แม้ว่าไม่มีใครหนีกรรมได้พ้น แต่การประกอบกุศลกรรมที่มีน้ำหนักเพียงพอก็สามารถช่วยทอนกระแสวิบากให้เบาบางลงได้ หาใช่ว่ากรรมจะหมดไปเสียสิ้น

อาจารย์เห็นว่ากรรมนั้นส่งผลสองลักษณะ หนึ่ง ส่งผลตามวิถีวิบาก เราส่งกระแสใดออกไปย่อมได้รับสิ่งนั้นกลับคืน อีกประการคือ ส่งผลในแบบมีเจ้ากรรมนายเวร คือเมื่อทำกรรมกับผู้ใด และผู้ถูกกระทำ มีจิตติดข้อง ย่อมเกิดเป็นการตามชำระหนี้กรรม ที่ไม่มีเจ้ากรรมนายเวร เช่น กรรมที่กระทำต่อพระพุทธเจ้าเรื่อยไปจนถึงพระอรหันตเจ้าและผู้ทรงธรรมที่เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา เพราะจิตที่หลุดพ้นแล้วย่อมไม่มีจิตจองเวร แต่บุคคลผู้ทำกรรมยังต้องรับอกุศลวิบากหนัก เพราะเป็นส่วนของวิถีวิบาก

กรรมหนักบางอย่าง ก่อนที่จะเสวยเป็นวิบาก หากบุคคลนั้นพอมีบุญหนุนอยู่บ้าง ก็มักมีนิมิตหรือฝันมาเตือนเพื่อให้มีโอกาสแก้ไขลดทอนกระแสวิบากนั้น แต่กรรมตัดรอนมักไม่เป็นเช่นนั้น ศิษย์วิปัสสนาหลายคน ก่อนจะประสบวิบากกรรมหนัก ก็เกิดนิมิตที่ชัดเจนเหมือนจริงมากปรากฏเตือนให้เร่งทำ กุศลใหญ่เพื่อลดทอนกรรมวิถีวิบากได้ทัน และเมื่อทำกุศลใหญ่ เช่น การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ก็ลดทอนกระแสกรรมได้จริงๆ

ตัวอย่างการเตือนเมื่อเร็วๆนี้ก็เพิ่งเกิด โดยมีนิมิตขึ้นในจิต ให้อาจารย์เห็นบุคคลใกล้เคียงผู้หนึ่งนอนตาย จิตบอกว่าต้องเตือนเขาให้ทำอย่างไร โดยก่อนหน้านี้ 1 ปีก็รู้และเตือนเขาไปแล้วว่าจะอายุสั้น แต่ด้วยกุศลกรรมที่ทำไม่เพียงพอ พอใกล้ถึงเวลาจะตายก็มีนิมิตมาเตือนอีก เพื่อช่วยทั้งตัวเขาและครอบครัว ให้ไม่ลำบากเกินไป อาจารย์จึงบอกเขาถึงนิมิตและให้แก้ไขลดทอนวิบากหนักถึงชีวิตแบบเร่งด่วน ด้วยการไปปล่อยวัวที่โรงฆ่าสัตว์ 1 ตัว อุทิศบุญจากการให้ชีวิตสัตว์ใหญ่ได้มีโอกาสอยู่รอด และอธิษฐานกุศลนี้เพื่อต่ออายุของตนเอง

นิมิตที่ปรากฏนี้ หากไม่ได้อยู่ในคอร์สภาวนา บุคคลก็ยากจะรอด การประกอบบุญกับสัตว์ใหญ่ที่มีคุณต่อมนุษย์จึงเป็นทางเร่งด่วนที่แก้ไขไปก่อนเปลาะแรก จากนั้นจึงปฏิบัติภาวนา เผาบาปเผากิเลส และสะสมบุญกุศลต่อไป

วิบากที่เป็นกรรมตัดรอนหรืออุปฆาตกรรม เป็นกรรมที่มีหน้าที่ตัดกรรมอื่นๆให้สิ้นลง ซึ่งมีทั้งที่ตัดรอนจนถึงแก่ความตาย และตัดรอนให้หมดโอกาสได้รับความเจริญทางโลก เช่น กำลังจะได้ลาภหรือได้รับผลสำเร็จจากกิจการงาน จู่ๆก็มีเหตุมาตัดทอนหนทางนั้นเสียในแบบที่คิดไม่ถึง

สำหรับเรื่องที่เล่าเป็นธรรมทานนี้ เป็นส่วนกรรมตัดรอนถึงแก่ชีวิต ทำให้ถึงแก่ความตายก่อนวัยอันควร และตายในแบบที่ไม่มีเหตุบอกล่วงหน้า ไม่มีนิมิตเตือนได้ เพราะวิถีที่ส่งมาเร็วและถาโถมแรงจนหมดสิทธิ์ตั้งรับ เป็นกรรมที่ทำให้หมดโอกาสทำกุศลกรรม เป็นการส่งผลมาจากกรรมปาณาติบาต ในอดีตชาติของบุคคลสองคนที่เกิดขึ้นต่างเวลากัน โดยในชาตินี้ ทั้งสองเป็นคนดี มีความกตัญญูรู้คุณ มีจิตใจใฝ่ธรรม ประกอบกุศลกรรมเสมอ แต่ต้องมาจบชีวิตลงก่อนวัยอันควร เป็นการส่งผลมาจากกรรมปาณาติบาตในอดีตชาติ ในระดับการวางแผนประทุษร้าย

คนแรกทำการวางแผนด้วยความหลงผิดด้วยความโลภ จนคิดวางแผนประทุษร้ายผู้มีคุณธรรมสูงเพื่อมุ่งเอาทรัพย์ อีกคนวางแผนในเชิงยุทธศาสตร์การสงคราม แม้จะทำเพื่อแผ่นดินก็ยังไม่อาจหนีกรรมตัดรอนได้พ้น โดยในส่วนของกุศลกรรมที่เสียสละเพื่อชาติ ก็ทำให้ได้เป็นผู้มีฐานะทางหน้าที่การงานสูง มีสติปัญญาปราดเปรื่อง เป็นที่รักและเคารพของคนจำนวนมาก แม้จะประกอบกุศลกรรมในชาตินี้อย่างไร แต่ก็ไม่สามารถหนีกรรมจากปางก่อนมาตัดรอนจนเสียชีวิต สร้างความเสียใจ สะเทือนใจแก่ครอบครัวและญาติมิตร บังเกิดเป็นมรณานุสติให้แก่ทุกคนที่รู้ข่าว

คนเรามักประมาทในการส่งผลของกรรม จึงหลงใช้ชีวิตอยู่กับความเพลิดเพลิน และการวิ่งคว้าเป้าหมายโดยไม่ได้ทำกุศลกรรมให้ถึงพร้อม ให้สมกับการได้ความเป็นมนุษย์ เมื่อจะทำบุญแต่ก็ไม่หยุดทำบาป แม้แต่ศีล 5 ก็รักษาไม่ได้ ก็สะสมกรรมต่อไปไม่จบสิ้น บุญที่ไม่ได้ทำด้วยศรัทธาและใจที่เสียสละ ไม่ว่าใครจะบรรยายสรรพคุณอานิสงส์แห่งบุญอย่างไร ก็จะไม่บังเกิดอานิสงส์ระดับนั้นหากทำด้วยความโลภในบุญ

ขอให้เผื่อใจนิดหนึ่งว่า หากเราต้องตายในอีกไม่นานนี้ ใครบ้างที่จะเดือดร้อนกับการตายของเรา พ่อแม่ ครอบครัว สามี ภรรยา ลูก เราจะยังความเดือดร้อนมาสู่เขา หรือเราจะเป็นผู้พร้อมกับการตายทุกเมื่อโดยมีแผนรองรับทุกอย่าง แล้วดวงจิตหลังจากนี้จะไปอยู่ที่ไหน นรก สวรรค์ หรือที่ไหน จิตใจนี้หวั่นไหวกับบาปและอกุศลกรรมที่ได้เคยทำไว้หรือไม่ หากยังหวั่นใจอยู่ ก็พึงรู้ว่าสุคติคงหวังได้ยาก

ในปัจฉิมโอวาทของพระพุทธองค์ก็ทรงสอนไม่ให้ประมาท แม้จะหนีกรรมตัดรอนหรือกรรมอื่นใดไม่พ้น แต่หากเราใช้ชีวิตที่ยังเหลืออยู่ทำแต่กุศลกรรม คิดดี ทำดี หยุดทำบาป และทำความดีให้ยิ่งขึ้นในระดับการเจริญภาวนา แม้เมื่อกรรมตัดรอนมาถึง ชีวิตนี้ก็ไม่สูญเปล่า เพราะเมื่อเสวยอกุศลวิบากไปแล้ว ต่อไปก็จะเป็นการเสวยกุศลวิบากที่ได้เร่งสั่งสมไว้

อ่านฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารข้ามห้วงมหรรณพ ฉบับที่ 56 สมัครสมาชิก คลิ๊กที่นี่