Skip to content Skip to footer

ดร. สมศักดิ์ ชลาชล

ผู้ปฏิวัติวงการช่างทำผมด้วยแพชชั่นและศรัทธา

หนึ่งในการดูแลตัวเองที่คนมักนึกถึงมากที่สุดยามมองหาสีสันให้ชีวิต คือ การเข้าร้านทำผม สำหรับหลายๆ คน เพียงแค่การได้สระผมและไดร์ผม ก็ทำให้อารมณ์ดีใจฟูแล้ว แต่เป็นที่น่าตกใจอย่างยิ่งว่า อาชีพช่างแต่งผมกลับเป็นอาชีพที่ไม่อยู่ในสายตา จนเมื่อ 30 กว่าปีมานี้เอง ทัศนคติของสังคมเริ่มเป็นบวกมากขึ้น ต้องยกเครดิตให้ ดร.สมศักดิ์ ชลาชล ผู้ได้รับการยอมรับว่า เป็นนักปฏิวัติวงการช่างทำผม จากอาชีพที่มีแต่ผู้หญิงกลางคืนและเพศทางเลือกมาเรียน กลายเป็นอาชีพในฝันของใครหลายๆ คน

คนภายนอกมักรู้จัก ดร.สมศักดิ์ในมุมของช่างทำผมชั้นแนว หน้าที่มีไลฟ์สไตล์หรูหราเป็นดาวเด่นของวงสังคม แต่เบื้องหลัง นั้น ดร.สมศักดิ์คือผู้ที่มั่นคงในพระรัตนตรัยอย่างยิ่ง จนไม่น่าเชื่อว่า ชั่วชีวิตนี้ไม่เคยเฉียดใกล้เรื่องมูเตลูแม้แต่น้อย ภายใต้การแต่งตัวที่ล้ำสมัย เปรี้ยวจี๊ดจนเข็ดฟัน เป็นครูที่คอยพร่ำสอน นักเรียนของตนที่โรงเรียนเสริมสวย Chalachol Academy ให้ เป็นคนที่ใช้ชีวิตในกรอบของศีล นอกเหนือไปจากการปลูกฝังความกตัญญูและซื่อสัตย์ในตัวเอง

แต่แล้วชีวิตก็ถึงจุดเปลี่ยน เมื่อดร.สมศักดิ์ ตัดสินใจ บวชน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตรในปีที่เสด็จสวรรคต เพียงเวลาแค่ 2 สัปดาห์ในผ้ากาสาวพัสตร์ ได้เปลี่ยนมุมมองชีวิตไปตลอดกาล

ในวันนี้ หลังจากที่ปล่อยวางทางธุรกิจให้หลานๆ ดูแล ดร. สมศักดิ์ก็หันมาสานฝันวัยเด็ก กลับมาฝึกฝนแบดมินตัน กีฬาสุด โปรดที่ตนเองถนัดถึงขนาดเกือบได้ติดทีมชาติสมัยเรียนมัธยม จน ล่าสุดคว้าชัยชนะ 2 นัดรวดในงานแข่งขันกีฬาสูงอายุนานาชาติ ไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์ ครั้งที่ 4 พิสูจน์ให้เห็นว่าอายุ ไม่ใช่อุปสรรคในการทำตามความฝัน

ครอบครัวและการเลี้ยงดู ความทรงจำ ที่ประทับใจ

ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า เราเป็นลูกคนเล็ก ที่บ้านทำ โรงสี ครอบครัวมีอันจะกิน พ่อแม่ทำ งานหนักมากจนไม่มีเวลาเลี้ยงดู เรา ให้พี่เลี้ยงดูแล ท่านเลยสปอยล์เรามาก แต่ในขณะเดียวกัน ครอบครัวเราบริจาคและอุปัฏฐากพระวัดป่าตลอด ตอนเด็กๆ ถึง จะตามใจเรายังไง คุณพ่อก็จะพาเข้าวัดเสมอ แม้ช่วงวัยรุ่นเราจะ เข้าสังคมมาก แต่พอถึงวัยที่มันเห็นชีวิต เข้าใจชีวิตมากขึ้น พอ มองย้อนกลับไป สิ่งพวกนี้คือวัคซีน มันคือวัคซีนครอบครัวที่ฉีดให้ เราตั้งแต่เด็ก ถึงจะเกเรยังไง เราก็ไม่ออกจากทาง

ตอนนั้นมหาวิทยาลัยรามคำ แหงอยู่หัวหมาก เรียนด้านการ เงิน การบัญชี การธนาคาร แต่ก็เรียนไม่จบ เรียนเสร็จก็ไปเล่น โบว์ลิ่ง เที่ยวเตร่ แต่เราก็พบว่า ไม่ว่ายังไง ก็อยากเรียนหนังสือ เลยไปสมัครเรียนที่วิทยาลัยครูสวนสุนันทา จบได้อนุปริญญามา

คือไม่ใช่คนขี้เกียจ แค่ไม่ชอบการเรียนให้ห้องเรียน

จัดว่าเป็นคนหัวดีเพราะสอบได้คะแนนดีมาตลอดทั้งที่ไม่ ได้อ่านหนังสือ และยังรับหน้าที่เป็นหัวหน้าห้องด้วย สมัยเด็กๆ ครอบครัวก็จะประมาณนี้ จะไม่มาวุ่นวายสั่งสอนเรา แต่สิ่งที่เรา เห็นมาตลอดคือ คุณพ่อคุณแม่ทำ งานหนักและประสบความ สำ เร็จ เพียงแต่สิ่งที่เราชอบจริงๆ คือการได้ใช้ชีวิตให้เต็มที่

เลยเป็นที่มาของการค้นพบความรักในอาชีพนี้

พี่เป็นคนสำ อาง ตอนนั้นมีคู่หมั้นคู่หมายและเราชอบไปร้าน ทำ ผมด้วยกัน เจ้าของร้านก็ถามว่าสนใจรับช่วงต่อกิจการร้านมั้ย ก็เริ่มสนใจ สมัยนั้นมัน 40 ปีที่แล้ว มีผู้ชายเป็นช่างทำ ผมมาก ขึ้น ที่ดังๆ ก็ อดุลย์ Hair Do อาจารย์มนูศักดิ์ บุญมาเลิศ ด้วย ความที่เป็นลูกคนจีน เราก็เห็นความเป็นไปได้การเปิดร้านในมุม มองธุรกิจ ก็คิดว่าถ้าเราจะเซ้ง ต้องมีความรู้ ก็เลยไปเรียนไปเอา Diploma มาเป็นยันต์กันผี

อ่านฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารข้ามห้วงมหรรณพ ฉบับที่ 57 สมัครสมาชิก คลิ๊กที่นี่

สำหรับลูกค้าในประเทศ

สั่งซื้อนิตยสารได้ที่นี่