ที่ต้องเติมเร่งด่วนด้วยกำลังของใจ

10 วิธีรักษาและเยียวยาภาวะซึมเศร้า
โรคซึมเศร้า กลายเป็นโรคกัดกร่อนจิตใจพลเมืองโลก และเป็นภาวะที่มีอัตราการแพร่ขยายรวดเร็วมากตามสปีดความเร็วของคลื่น อินเทอร์เน็ต หากผู้อ่านมีโอกาสสนทนาเชิงลึกกับเพื่อนหรือคนรู้จักมักคุ้น แทนการพูดคุยอย่างผิวเผินเรื่องดินฟ้าอากาศ หรือ เรื่องที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในสังคม อาจประหลาดใจว่า บุคคล นั้นกำลังประสบกับภาวะซึมเศร้า ที่เมื่อเป็นอย่างต่อเนื่องก็ถูก ยกระดับให้เป็น “โรค” ชนิดหนึ่ง
โรคซึมเศร้า คือภาวะการถูกกดทับด้วยความทุกข์อย่างยาวนานและต่อเนื่อง จนรู้สึกไม่สามารถหาทางออกจากความทุกข์นั้นได้ เป็นภาวะหลุมดำทางใจที่ผู้ป่วยจะถูกดูดลงไปแบบหาจุดต่ำสุดไม่เจอ จนกว่าจิตจะมีแรงไต่ออกมาจากหลุมนั้นได้ เป็นโรคระบาดที่แพร่ขยายไปยังคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นคนดัง คนไม่ดัง เศรษฐี หรือยาจก คนดังของโลกที่เป็นโรคซึมเศร้าอาทิ เซลีนา โกเมซ เลดี้ กาก้า เป็นศิลปินที่ได้รับความรักและชื่นชมทั้งโลก แม้แต่ดาวตลกชั้นแนวหน้าอย่างโรบิน วิลเลี่ยมส์ก็ยังพ่ายแพ้ต่อโรคนี้ และลงเอยด้วยการจบชีวิตตัวเอง หรือ ดเวย์น จอห์นสัน (The Rock) ดาราร่างยักษ์ที่มีวินัยในชีวิต ประจำวันทั้งออกกำลังกายเป็นประจำ และกินแต่อาหารเพื่อสุขภาพ ก็ยังไม่รอด สาเหตุเกือบทั้งหมดมาจากครอบครัวขาด ความอบอุ่นและการสูญเสียคนที่รักไป โดยเฉพาะคนที่เลี้ยงดู ตนเองมาในวัยเด็ก
ไม่ว่าจะทุกข์ด้วยเรื่องอะไรก็ตาม เช่น ทุกข์จากความไม่มี ความสูญเสียพลัดพราก ความสิ้นหวัง ความรู้สึกอ้างว้างเดียวดาย สภาวะหมดกำลังใจ ทุกข์จากการรอคอยโอกาส ทุกข์จากการถูกปฏิเสธ ถูกบูลลี่เกลียดชัง ไปจนถึงทุกข์จากความมีจิตริษยา วัน นี้จะขอนำเสนอแนวทางการจัดการกับปัญหาภาวะซึมเศร้า ที่กัดกร่อนจิตใจมาให้พิจารณา
ขณะที่เขียนบทนี้ ข้าพเจ้าอยู่ที่ริมทะเลในหน้ามรสุม ที่ฝนกำลังตกหนัก ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยหยาดฝนที่เทลงมาเหมือนฟ้ารั่ว ท้องทะเลปั่นป่วนคลื่นซัดเข้าหาฝั่งไม่ขาดสาย บรรยากาศเช่นนี้ทำให้ผู้ประสบภาวะซึมเศร้า หรือ Depression รู้สึกหมองหม่นขึ้นไปอีก เพราะแม้ฝนจะตกข้างนอก แต่ในความเป็นจริง ปริมาณน้ำฝนที่ตกมามากก็ไปเพิ่มปริมาณธาตุน้ำในร่างกายด้วย จึงเหมือนฝนตกในใจได้เช่นกัน ทำาให้ผู้ที่จิตเปราะบางและอยู่ในภาวะนี้รู้สึกเศร้ามากขึ้น เพราะจิตโน้มเอียงไปทางลบ ส่วนผู้ที่ไม่ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า อาจรู้สึกว่า โรแมนติก ชุ่มฉ่ำ หรือไม่ก็เฉยๆ เพราะฝนตกคือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
จิต สามารถปรุงแต่งไปได้หลากหลายอารมณ์ แก่นของปัญหาภาวะซึมเศร้า เกิดจากการขาดกำลังใจหรือพลังใจในการเผชิญปัญหา และไม่สามารถปล่อยวางความทุกข์ที่รุมเร้าได้ จนทำให้จิตถดถอย จมอยู่กับความเศร้า นำไปสู่การเก็บตัวเงียบซึมเศร้า และเมื่อจิตสิ้นเรี่ยวแรง ก็ทำให้การทำางานของร่างกายรวน ส่งผลทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแรงและนำไปสู่ความเจ็บป่วยในโรคอื่นๆ เป็นลูกโซ่ตามมา
การรักษาด้วยยาที่กดอารมณ์เศร้า จะได้ผลดีชั่วครู่ แต่จะไป เพิ่มแรงกดข่มพลังงานลบให้สะสมอยู่ที่จิตไร้สำนึก หากไม่รู้เท่าทัน เมื่อเกิดภาวะการกดข่มระเบิดออก จะทำให้ผู้ป่วยขาดสติและทำร้ายตัวเอง
ในเชิงกรรมและพลังงาน ผู้ที่ประสบเหตุจนทำให้เกิดเป็นโรคซึมเศร้า คือภาวะของการถูกวิบากกรรมถาโถม ทำให้มีสถานการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น ถูกเกลียดชัง ถูกปฏิเสธ ไม่ได้รับโอกาสสูญเสียผู้เป็นที่รัก ล้มเหลวในการดำเนินชีวิต โรคซึมเศร้าไม่ใช่การป่วยทางจิตเวช แต่เป็นภาวะความเปราะบางทางจิตใจ ขาดแรงใจ การแก้ปัญหาจึงต้องเริ่มต้นด้วยการให้ผู้ประสบภาวะนั้น ได้รับกำลังใจเป็นอันดับแรก แล้วจึงเป็นการเยียวยาอื่นๆตามมา ดังนั้นการเยียวยาที่สำคัญและต้องทำเป็นอันดับแรก คือการต้องให้ผู้ป่วยได้พูดถ่ายทอดความรู้สึกออกมากับคนใกล้ชิด อาจเป็น เพื่อนพ่อแม่ และผู้ฟังต้องฟังอย่างจริงใจการรับฟังด้วยความเห็นอกเห็นใจ การโอบกอดอย่างอบอุ่น เป็นการให้กำลังใจที่ดี
กำลังใจเป็นกำลังทั้งหมดของชีวิต เป็นประตูบานแรกแห่ง การกล้าลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหา ซึ่งการให้กำลังใจต้องทำอย่างสม่ำเสมอ จนจิตเริ่มมีพลังปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ที่ช่วยรักษาภาวะซึมเศร้าอย่างถาวร และมีแรงยืนอยู่เหนือปัญหาไม่จมอยู่กับภาวะนั้นอีก
10 ข้อแนวทางเยียวยา
1.พาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางกระแสพลังบวก Positive Energy ที่มีมวลพลังงานส่วนร่วมสูง เช่น ไปงานวันเกิด งานเฉลิมฉลอง ดูคอนเสิร์ตแนวเพลงที่ชอบ ที่บัตรไม่แพงเกินไป ดูละครเวทีที่ได้เห็นผู้แสดงจริงๆ บนเวที พาตัวเข้าไปร่วมกิจกรรมทางสังคมดีๆ เช่น การออกกำาลังกายกลุ่มใหญ่ประกอบเสียงเพลง หรือไปอยู่ท่ามกลางคนหนุ่มสาวที่วัยสดใส เช่น ไปเดินที่มหาวิทยาลัย ไปห้องสมุด เดินดูกิจกรรมของนักศึกษา การอยู่ท่ามกลางกระแสเช่นนี้ จะช่วย Boost กำาลังจิตที่อ่อนแรงไปมากอย่างมีนัยยะสำาคัญ เพราะด้วยระดับกำลังจิตเสียหายไปมาก เติมทีละนิดอาจช้าเกินไป และไม่ส่งผลชัดเจน เมื่อไปอยู่ท่ามกลางมวลพลังงานบวกที่มีมวลหนาแน่นสูง จะช่วยยกกำาลังใจที่พร่องไปมาก ให้อยู่ในระดับที่จะมีกำาลังกายและใจแก้ไขภาวะนี้ในเรื่องอื่นๆ ตามมาได้ นักปฏิบัติธรรมจึงมักพาตัวมาร่วมกันสวดมนต์หรือภาวนา เพราะนอกจากจะได้บุญแล้ว ทำให้ได้รับ Energy ดีๆกลับไปด้วย
ตอนที่ข้าพเจ้าไปเยี่ยมลูกที่กำลังเรียนปี 1 อยู่ที่ UCLA ใช้ เวลาเดินชมแคมปัส นั่งกับพื้นสนามหญ้า ไปชมห้องสมุด ไปกิน อาหารที่โรงอาหารมหาวิทยาลัย ตลอดเวลาเวลา 4 ชั่วโมงที่อยู่ ที่นั่น สิ่งที่ผ่านเข้ามาสู่จิตผ่านสายตาคือนักศึกษาหนุ่มสาวในวัย เบ่งบาน แววตาเต็มไปด้วยความฝัน และความวาดหวังถึงอนาคต ที่สดใส วันนั้นมีนักศึกษากลุ่มหนึ่งกำลังซ้อมเล่นละครกลางแจ้ง อีกกลุ่มกำลังถ่ายรูปหมู่ พลังงานของนักศึกษาจำนวนมากที่ส่ง ออกมาทำให้จิตแช่มชื่นขึ้นอย่างมาก
สำาหรับผู้ที่ทำงานในมหาวิทยาลัย จิตย่อมคุ้นเคยกับพลังงาน เช่นนี้ ก็จำต้องเปลี่ยนการ Boost พลังงาน เป็นสถานที่ที่ แตกต่างแทนในตรรกะเดียวกัน การพาตัวเองไปรับฐานพลังงาน ใหม่ เป็นมุมมองของความเข้าใจธรรมชาติของจิต ที่มักเบื่อหน่าย กับความคุ้นเคย
ชาวอเมริกัน มักชอบส่งพ่อแม่ผู้สูงวัยไปอยู่บ้านคนชรา เพื่อ ให้มีคนดูแลใกล้ชิด ด้วยความเป็นบ้านคนชราก็จะมีแต่คนวัย เดียวกันเต็มไปหมด ศูนย์คนชราบางแห่งที่คิดค่าบริการสูงลิ่ว ก็ จะมีกิจกรรมให้คนชรามีความเพลิดเพลิน เช่น การร้องเพลง เล่นเกมต่างๆ แต่ปัญหาก็คือว่า การอยู่ท่ามกลางวัยร่วงโรยเข้า ใกล้ความตาย ทำให้ในทุกๆ วันของชีวิต เหมือนอยู่ท่ามกลาง ใบไม้ที่ปลิดปลิว มองไปทางไหนก็จะพบแต่คนชรา คนชรา และ คนชรา ที่สังขารร่วงโรยและมีสภาพที่น่าหดหู่ สภาวะเช่นนี้ เป็น สนามพลังงานที่ฉุดดึงกำลังจิตซึ่งกันและกัน
หากยกเว้นตรรกะบ้านคนชราในมุมเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย การส่งผู้สูงวัยเข้าไปอยู่ที่บ้านคนชราเป็นการผลักผู้สูงวัยให้ต้องประสบภาวะแวดล้อมที่หดหู่หนักขึ้น แทนการอยู่ท่ามกลางกระแสพลังงานหลากหลาย ของคนหลายๆวัยอยู่ร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ผู้สูงวัยมีความสุขมากกว่าการต้องอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้าผู้มีวัยเดียวกัน การได้อยู่บ้านที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว อาศัยมาอย่างมีความสุขมานาน ได้ทำากิจกรรมปลูกต้นไม้ ออกกำลังกายเบาๆ มีลูกหลานมาเยี่ยมเป็นช่วงๆย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการมองเฉพาะเรื่องสุขภาพ โดยไม่คำนึงถึงความสุขทางจิตใจ
2.วางเป้าหมายชีวิต แม้บางเรื่องอาจดูไม่ยิ่งใหญ่ เช่น การวางแผนท่องเที่ยว แต่การวางเป้าหมายเช่นนี้ ทำาให้ชีวิตมีทิศทางและจิตได้รอคอยความสุข ส่งผลให้เกิดกำาลังใจที่จะมีชีวิตต่อไปการปล่อยให้ชีวิตไม่มีเป้าหมาย ไร้แผนการใดๆ จะทำาให้เวลามีเรื่องกระทบใจจะขาดพลังฟันฝ่า และคิดชอบหนี เพราะจิตไม่ได้รับการฝึกฝนให้ฟันฝ่าอุปสรรค ผู้ที่มีจุดหมายในการอยู่เพื่อผู้อื่น เช่น การอยากตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ ซึ่งเป็นวิถีของชาวเอเชีย ได้กลายเป็นแรงผลักดันสำาคัญที่ทำาให้คนเอเชียมีความอดทนสูง พยายามเรียนหนังสือเพื่อให้มีงานทำาดีๆ ไว้ส่งเงินให้พ่อแม่ พร้อมๆ กับการสร้างชีวิตของตัวเอง ความกตัญญู กลายเป็นแรงผลักดันให้ชีวิตมีเป้าหมาย และมีจิตใจหนักแน่นในการฟันฝ่าอุปสรรค แม้บางครั้งชีวิตจะล้มหรือซวนเซ ก็สามารถยืนหยัดขึ้นมาใหม่ได้
การไม่ให้ความสำคัญกับชีวิตของตัวเอง อยู่ไปวันๆ ทำให้ ชีวิตไร้หลัก การมีจุดหมายอยู่เพื่อคนอื่น จึงกลายเป็นการยกระดับชีวิตให้มีความหมาย และทำให้ชีวิตไม่จมอยู่ในความมืด นานเกินไป
3. ตัดผม การตัดผมดูเหมือนเป็นภาวะทำาซ้ำๆ ที่ไม่มีอะไร แปลกใหม่ที่เรียกว่า Cliche แต่การตัดผม เป็นแอ็กชั่นเยียวยาที่ ได้ผล เพราะเป็นการตัดกระแสพลังงานลบที่กดดันจิตด้วยการ ลงมือทำให้เห็นซึ่งๆ หน้า ไม่ทำทีละคืบหรือแบบค่อยเป็นค่อยไป การตัดผม จะช่วยผู้ประสบภาวะซึมเศร้า เห็นการเปลี่ยนแปลง ของตัวเองอย่างชัดเจน
ตอนที่ Sinead O’ Connor นักร้องหญิงชาวไอริช ผู้เคย เป็นนักร้องแบบสตรีทซิงเกอร์ ได้รับการทาบทามจากค่ายเพลง ให้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินเดี่ยว ด้วยความที่มีใบหน้าอันแสนสวย ค่ายเพลงก็ตระเตรียมให้เธอแต่งหน้าทำผมเพื่อเสริมภาพลักษณ์ ให้สวยเด่นยิ่งขึ้น แต่โอ คอนเนอร์ผู้มีความเป็นตัวของตัวเองสูง นอกจากจะปฏิเสธแล้ว เธอกลับทำตรงกันข้าม เธอมาปรากฏกาย ด้วยการโกนผม!
มิวสิกวีดีโอเพลง Nothing Compares 2 U อันไพเราะ ที่ เธอร้องด้วยแววตาและลีลาสะกดผู้ฟัง ผนวกกับความสวยของเธอ ทำให้โอ คอนเนอร์โด่งดังชั่วข้ามคืน และเพลง Nothing Compares 2 U ได้ถูกจัดอันดับให้เป็นเพลงเศร้าที่โลกจำไปตลอดกาล หากเธอไม่โกนผม เพลงอาจไม่ดังเท่านี้
หากไม่ใช่ศิลปินแขนงใดแขนงหนี่ง โปรดอย่าโกนผม ขอแค่ ตัดผมก็พอ ความรู้สึกที่ศีรษะเบาสบาย ตัดและตัด ช่วยตัดกระแส ลบออกจากจิตได้จริงๆ
อ่านฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารข้ามห้วงมหรรณพ ฉบับที่ 53 สมัครสมาชิก คลิ๊กที่นี่