อาจารย์คฑา ชินบัญชร

ชีวิตวันนี้

ของ อาจารย์คฑา ชินบัญชร

ในเส้นทางชีวิตของคนๆ หนึ่งนั้น มีองค์ประกอบที่จำเป็นต่อความสุขความสำเร็จแตกต่างกันออกไปมากมายนับไม่ถ้วน ขึ้นอยู่กับว่า ใครให้นิยามความสุขความสำเร็จไว้อย่างไร แต่จุดเริ่มต้นขององค์ประกอบนั้นมักมาจากศรัทธาหรือ ความเชื่อ จนนำไปสู่การกำหนดเส้นทางเดินชีวิต กระนั้น ก็ยังมี เส้นบางๆ ระหว่างความเชื่อ และ ความงมงาย

ในฐานะหมอดูไพ่ยิปซีอันดับต้นๆ ของประเทศ อ. คฑา ชินบัญชร ถือได้ว่ามีภาพลักษณ์ของผู้เชี่ยวชาญสายมูระดับแนวหน้าคนหนึ่ง ไม่ใช่แค่เพราะชื่อเสียงจากการอ่านไพ่แม่นยำ และสไตล์การอ่านที่ตรงไปตรงมา กระแทกใจคนฟัง แต่เพราะความรอบรู้ในโหราศาสตร์สายต่างๆ ที่ลึกซึ้ง และความรักในการสวดมนต์เป็นชีวิตจิตใจ ที่นำพาให้อ.คฑา เข้าสู่เส้นทางอาชีพหมอดู จากเด็กจบใหม่คณะศึกษาศาสตร์ และคหกรรมศาสตร์ ที่เตรียมตัวหางานและเรียนต่อปริญญาโท พร้อมตั้งใจว่าอยากเป็นครูอนุบาลเพราะรักเด็ก กลายมาเป็นหมอดูที่คิวแน่นทั้งปี

แต่ใครที่เข้าหาอ. คฑา ด้วยหวังว่าจะได้เคล็ดลับพิเศษ ที่ทำให้สมหวังดังใจแล้วล่ะก็ ต้องขอบอกว่าผิดหวังแน่นอน เพราะตัวอ. คฑาเองนั้นยืนยันว่า ไม่เคยมีเคล็ดลับพิสดารอะไรนอกจากการสวดมนต์ และดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์ โดยย้ำว่า โหราศาสตร์นั้นเป็นเพียงเครื่องมือช่วยเผยเส้นทางชีวิตที่รออยู่ข้างหน้าตามกฎแห่งบุญและกรรมของคนๆนั้น โดยอนาคตนั้นไม่ได้ถูกขีดตายตัว สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอด้วยพลังแห่งความดีในตน โดยมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่ครูอาจารย์ เป็นเข็มทิศนำทางสู่ความสุขและความสำเร็จที่แท้จริง

ที่มาของชื่อ “คฑา ชินบัญชร”

เป็นเรื่องแปลกอีกเรื่องนึง ก่อนมานั่งดูไพ่ตามที่เพื่อนที่เป็นเจ้าของโรงแรมชวนเพราะเห็นว่าเราพอดูไพ่ได้ ก็บอกยายว่าจะมานั่งแค่ 2-3 เดือน ขอให้ตั้งชื่อให้เราหน่อยเป็นฉายา ยายก็ตั้งให้เราว่า “คฑา” ซึ่งเราชอบ หนึ่งมันแปลกดี เรียกยาก และคฑาเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของไพ่ยิปซี คือ ดอกจิก คือมันมีสิ่งนี้อยู่ เราเลย เออ ก็ดี ก็มีความหมายในไพ่โดยที่ยายไม่รู้

พอวันเปิดงาน เปิดซุ้มดูหมอ เฮ้ย! ทำ ไมเป็นนามสกุล “ชินบัญชร” ด้วยล่ะ เพื่อนที่เป็นคนดูแลเรื่องทำ ป้ายบอกว่า มี ผู้จัดการมาบอกว่าชื่อสั้นไป ให้เติม “ชินบัญชร” เพราะเพื่อน คุณน่ะชอบสวดชินบัญชร แต่ผมไม่เคยรู้จักผู้จัดการคนนี้เลยนะ แม้แต่เพื่อนยังไม่รู้เลยว่าผมชอบสวดชินบัญชร ผมถามคำ เดียวว่า ถ้าคุณจะรู้ว่าผมชอบสวดบทไหน มีอยู่ 2 แบบ คุณกับผมต้องสนิทกันสุดๆ แล้วผมบอกคุณ กับผมต้องไปนอนค้างบ้านคุณแล้วได้ยินผมสวดมนต์ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ผมก็ถามเค้า รู้ได้ไง เค้าตอบว่า รู้แล้วกัน แล้วบอกว่าให้หันหน้าไปทางวัดระฆังตั้งจิตถึงท่านสิ ผมก็หันหน้าไปแล้วก็สวดบท ชินบัญชร ขอหลวงปู่โตว่า เราจะใช้คำว่าชินบัญชร จริงๆ เรา ไม่ได้คิดอะไรด้วย เค้าบอกให้ทำ เราก็ทำ ก็เด็กอ่ะนะ

อาจารย์ยังเชี่ยวชาญฮวงจุ้ยด้วย ได้ผลจริงหรือไม่ และช่วยทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ขนาดไหนคะ

ผมไม่เคยบอกว่ามันแก้ได้ไม่ได้ แต่จะบอกว่า คนจีนเนี่ย ทิศทั้งแปดรวมไปถึงทิศเบื้องบนและทิศข้างล่างเนี่ย มีพลังงานไหลเวียนต่างกัน ต่างกันยังไง พลังแบบนี้ ถ้าผมเกิดปีนี้ ถ้านอนหันหน้าทิศเหนือ จะส่งพลังเรื่องความ คิดความอ่าน ไหวพริบ แต่ถ้าเกิดสมมุติเป็นคนนี้หันทิศ นี้ พลังนี้อาจจะทำ ให้รวย อีกคนอาจจะทำ ให้เสียทรัพย์ อีก คนอาจจะทำ ให้เจ็บป่วย หรือคนจีนบอกว่าดาวแต่ละดวง เมื่อเดินมา ฮ่องเต้เปลี่ยน เมืองเปลี่ยน ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แต่งงาน ก็จดบันทึกไว้ ก็เป็นสถิติกับความเป็นไปได้ ซึ่งไม่ได้บอกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ อีกอย่างคือ จีนเชื่อว่า ขอให้แค่มีคุณธรรมคือ “อิกเต็ก” คุณธรรมก็แปลว่าความดี ถ้ามาในศาสนาพุธคือ ขอแค่ คิดดี พูดดี ทำ ดี ชีวิตมันก็ดีแล้ว อันต่อไป คือ ความกตัญญู มันก็เป็นหนึ่งในความดี เป็นคุณธรรม ถ้ามีสองอย่างนี้ชีวิตก็ดี

อาจารย์มักขอให้คนที่มาดูดวงเริ่มสวดมนต์ก่อนเลย เป็นอันดับแรก

เวลาคนเราสวดมนต์เป็นประจำ เกิดอะไรขึ้น กายสงบ จิตระงับ เมื่อกายสงบ จิตระงับ เกิดสติ เกิดปัญญา เมื่อเกิดสติ เกิดปัญญา สวดมนต์บ่อยๆ เอฟของก็น้อยลง เอาเวลาซื้อของมาสวดมนต์ อย่างน้อยก็ครึ่งนึงละ สติก็เกิด ปัญญาก็มี คิดอ่านอะไรก็ส่งเสริม รวยขึ้นแน่นอน เห็นภาพไหม แต่ ถ้าเราบอกว่า เฮ้ย ห้ามซื้อของ ไม่ฟังหรอก

บางทีเรื่องดวงมันไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก แต่มันเป็นจุดเปลี่ยนที่เราจะดึงเขาเข้าทางธรรม ไปสวดบทนี้สิ สวดแล้ว จะราบรื่นนะ ดาวพฤหัสย้าย จริงๆ ไม่เกี่ยวเลย ทำไมไม่เกี่ยว ดาวพฤหัสย้ายไม่เกี่ยวอะไรหรอก อาจจะเกี่ยวกับชีวิตเราหรือไม่เกี่ยวไม่รู้ แต่เมื่อคนเข้าวัดสวดนพเคราะห์ การสวดนพเคราะห์คือเค้าจะเอา หนึ่ง พุทธานุภาพ สอง ธรรมานุภาพ สาม สังฆานุภาพ สี่ ได้เทวานุภาพ อานุภาพของทวยเทพเทวดา ถ้ามี ห้า ได้ระลึกนึกถึงบทสวดแต่ละบท หก ได้นั่งอย่างจิตสงบ รู้สติ ตื่นรู้ กายระงับ เกิดสติปัญญาในการแก้ไขชีวิต จริงไหม ..มันไม่ดีตรงไหน เค้าทำกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล เมืองเวสาลีมีโรคห่า พระพุทธเจ้ายังสวดมนต์ ทำน้ำมนต์พรมเลย

อ่านฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารข้ามห้วงมหรรณพ ฉบับที่ 60 สมัครสมาชิก คลิ๊กที่นี่