Skip to content Skip to footer

จัสติน บีเบอร์

ซูเปอร์สตาร์ กับชีวิตในวิถีโซเชียล

ในโลกยุคดิจิทัลนี้ ใครๆ ก็เป็นดาราได้ทั้งนั้น เพียงแค่อัปโหลดคลิปสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักในช่องยูทูบ ตัวเจ้าของก็ได้เป็นคนดังแล้ว เหมือนอย่างที่แอนดี วอร์ฮอล (Andy Warhol) ศิลปินและผู้ผลิตภาพยนตร์ชาวอเมริกัน เคยพูดไว้ว่า “ในอนาคต ทุกคนจะมีโอกาสเป็นคนดังได้ 15 นาที”

คำ กล่าวของเขาเป็นจริงแล้วในวันนี้ แต่การจะรักษาชื่อ เสียงและความสำ เร็จไว้นานๆ นั้นยากกว่านัก เพราะต้อง พยายามกระตุ้นความสนใจใหม่ๆ ในหมู่ชาวเน็ตตลอดเวลา และที่ยากยิ่งกว่าก็คือ การจะรักษาชื่อให้อยู่ในกระแสโดยที่ไม่ บ้าไปเสียก่อน เพราะชีวิตในโลกออนไลน์ไม่ได้มีเพียงความรัก และคำ ชื่นชม แต่ยังต้องเผชิญกับการคุกคามและความเกลียด ชังอีกด้วย

ชื่อเสียง ฐานะ และความสำ เร็จ คือยอดปรารถนาของ ทุกคน ยิ่งเป็นคนดังก็ยิ่งได้รับโอกาสดีๆ มากมายในชีวิต ทั้ง ในด้านวัตถุสิ่งของ การเดินทางไปยังที่ต่างๆ การใช้ชีวิตอย่าง หรูหรา พร้อมด้วยสถานะความเป็นบุคคลสำ คัญ และถ้าเพิ่ม การสื่อสารทางโซเชียลมีเดียด้วยแล้ว ก็จะมีแฟนๆ ติดตาม อีกมากมาย แต่กว่าจะถึงระดับนั้นได้ คนคนนั้นจะต้อง ทำ งานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างจริงจัง ไม่ใช่ทำ เพราะแค่ อยากมีชื่อเสียง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเป็นยูทูบเบอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์คืองานในฝันขั้นสุดของบรรดาเด็กรุ่นใหม่ตั้งแต่ชั้น ประถมจนถึงระดับมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว แต่ในความเป็น จริง เมื่องานที่ทำ ด้วยความสนุกกลายมาเป็นธุรกิจที่จริงจัง ความสนุกก็จะหายไป เพราะในการเพิ่มยอดวิวหรือไลก์ เจ้าของช่องจะต้องสร้างสรรค์เรื่องราวต่างๆ ด้วยกลยุทธ์ทุก อย่างที่จะทำ ได้ ที่สำ คัญคือต้องเสียสละความเป็นส่วนตัวใน ชีวิตไปเลย จนกล่าวได้ว่า ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงมาก เพราะ มันหมายถึงสุขภาพจิตและกาย หรือทั้งชีวิตก็เป็นได้ แต่ด้วย กฎของธรรมชาติ สิ่งที่มากหรือน้อยเกินไปจะไม่สามารถดำ รง อยู่ได้ ทุกสิ่งต้องปรับเปลี่ยน และกลับมาสู่สมดุลในที่สุด

ตัวอย่างมีให้เห็นเมื่อไม่นานนี้ นักร้องและนักแต่งเพลง ชาวแคนาดา ผู้ได้รับยกย่องให้เป็นพ็อปสตาร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด แห่งยุค จัสติน บีเบอร์ และภรรยาของเขา เฮลีย์ บีเบอร์ ได้ ประกาศข่าวดีว่าเขาทั้งสองกำ ลังจะมีทายาท และได้ทำ พิธี แลกคำ สัญญารักกันอีกครั้ง โดยมีวิดีโอคลิปเผยภาพของ เฮลีย์ บีเบอร์สวยสดใสในชุดลูกไม้สีขาว อวดให้เห็นท้องของ เธออย่างชัดเจน

ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือว่าชีวิตคู่ของทั้งสองอาจจะไปไม่ รอดแล้ว อีกทั้งจัสตินก็มีปัญหาสุขภาพจิตและเจ็บป่วยอย่าง หนัก แต่เมื่อข่าวดีนี้แพร่ออกไป ทั้งคู่ก็ได้รับข้อความแสดงความยินดีทั้งจากครอบครัวและเพื่อนๆ รวมถึงแฟนเพลงนับ ล้านทั่วโลก ถึงกระนั้นก็ยังไม่วายที่จะมีบางคนแสดงความ เห็นในแนวโหดร้ายชิงชัง

แม้ว่าโซเชียลมีเดียจะเป็นเครื่องมือสื่อสารกับแฟนเพลง และโพรโมตงานที่สำ คัญมาก แต่ครั้งหนึ่งบีเบอร์ถึงกับต้อง เว้นวรรคตัวเองจากสื่อเหล่านี้ เพื่อให้ห่างไกลจากคนบางส่วน ที่แสดงความเกลียดชังด้วยถ้อยคำ คุกคามและรุนแรงต่อจิตใจ อันที่จริงเขาเติบโตมาจากโซเชียลมีเดียแท้ๆ เพราะเมื่ออายุได้ 11 ปี คุณแม่ของเขาได้อัปโหลดคลิปที่เขาร้องเพลงแนวอาร์ แอนด์บีลงในยูทูบ ซึ่งได้ผลตอบรับอย่างยอดเยี่ยม จนได้เซ็น สัญญาและเข้าสู่วงการเพลงในทันที

ด้วยผลงานร่วมสองทศวรรษในแวดวงดนตรี จัดได้ว่า บีเบอร์เป็นศิลปินเพลงที่มีความสามารถหลากหลายรูปแบบ และมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เขาได้รับยกย่องให้เป็นพ็อป สตาร์ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งนอกเหนือจากเทย์เลอร์ สวิฟต์ แล้ว จัด ได้ว่าเขาเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ถูกจับตามองตลอดเวลามาก ที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องราวของความรักและการแต่งตัว แต่ หลังจากที่หลงวนอยู่ในแวดวงโซเชียลมีเดียเป็นเวลานาน วัน หนึ่งเขาก็บอกลาสังคมออนไลน์ไปเลย โดยในปี ค.ศ. 2016 เขาตัดสินใจปิดบัญชีในอินสตาแกรม เพื่อยุติถ้อยคำ วิพากษ์ วิจารณ์รุนแรงจากแฟนเพลงที่ไม่เห็นด้วยและหวงศิลปินที่รัก ของตนหลังจากที่เขาโพสต์ภาพคู่กับแฟนเก่า ก่อนหน้านั้น บีเบอร์เคยกล่าวว่าจะเลิกถ่ายรูปกับแฟนเพลงในที่สาธารณะ ต่างๆ เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสัตว์ที่อยู่ในสวนสัตว์ ซึ่ง การเลิกทำ เช่นนั้นช่วยให้เขาสามารถคงสภาพจิตใจให้เป็น ปกติไว้ได้ และหลังจากหยุดออนไลน์ไปนาน 24 สัปดาห์ เขา ก็กลับเข้ามาสู่โลกโซเชียลมีเดียอีกครั้ง

ในช่วงนั้นเอง สังคมเริ่มพูดถึงเรื่องของโซเชียลดีท็อกซ์ อันหมายถึงการบำ บัดอาการเสพติดสื่อสังคมออนไลน์ ใน หลายปีที่ผ่านมา บรรดาคนดังจำ นวนไม่น้อยพากันถอยห่าง จากสังคมออนไลน์เพื่อพักรักษาใจ อาทิเช่น ทอม ฮอลแลนด์ นักแสดงหนุ่มมากความสามารถแห่งสไปเดอร์แมน, เซลีนา โกเมซ, เคนดัลล์ เจนเนอร์ รวมถึง เอ็ด ชีแรน ในขณะที่บาง คนแค่หยุดเป็นพักๆ แต่บางคนก็ลาจากอย่างถาวรเพื่อความ สงบสุขในชีวิต แม้ว่าจะทำ ให้ชื่อเสียงและกระแสแผ่วลงไปก็ ต้องยอม ดังเช่น สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน และ มีลา คูนิส

ท่ามกลางกระแสความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่อยาก จะหนีจากงานออฟฟิศไปทำ งานในโลกออนไลน์ กลับปรากฏ ว่าในหลายเดือนที่ผ่านมา มีคนดังหลายคนในยูทูบ ติ๊กต๊อก อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ พากันบอกลาอาชีพที่ทำ มานับ สิบปีทางโซเชียลมีเดีย โดยบอกว่าอยากทำ งานประจำ แบบ ออฟไลน์ที่ให้ความสงบในชีวิตมากกว่า ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือ พวกเขาหมดไฟกับการใช้ชีวิตที่ไม่เหลือความเป็นส่วนตัวชีวิตที่ต้องหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง และอยู่กับความฉาบฉวยมาก ขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนต่างก็เหนื่อยล้ากับการคอยวิ่งตามอัลกอริทึม ของแอปพลิเคชันที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้งานทุก ชิ้นได้รับการมองเห็นบนหน้าฟีดของแพลตฟอร์ม

แม้ว่าผลกระทบต่อคนเหล่านี้อาจไม่มากมายเหมือนกับ เหล่าซูเปอร์สตาร์ แต่ก็บั่นทอนชีวิตไม่น้อย งานทุกชิ้นมีข้อดีข้อ เสีย มีความท้าทายและความสนุกในตัวของมันเอง ทุกวงการ มีคนดังและคนประสบความสำ เร็จทั้งสิ้น ดังนั้นงานที่เติมเต็ม หรือเยียวยาให้ใจฟู แม้ในวันที่เหนื่อยแสนเหนื่อยย่อมมีคุณค่า มากกว่า เพราะความสุขที่ได้จะช่วยให้เราไปต่อได้ยาวๆ

อ่านฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารข้ามห้วงมหรรณพ ฉบับที่ 58 สมัครสมาชิก คลิ๊กที่นี่

สำหรับลูกค้าในประเทศ

สั่งซื้อนิตยสารได้ที่นี่