Skip to content Skip to footer

แจ็กสัน หวัง

กับชีวิตที่คิดบวก ในเส้นทาง ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

จากการที่วัฒนธรรมเอเชียป๊อปได้รับความนิยมไปทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชื่อ Jackson Wang ได้กลายเป็นที่รู้จักดีในแวดวงแฟนเพลง K-pop ทั้งในเอเชีย และทั่วโลก ในฐานะสมาชิกของวง Got7 บอยแบนด์ สัญชาติเกาหลีใต้ ซึ่งได้ยุบวงไปในเดือนมกราคม 2021 ที่ผ่านมาในบรรดาสมาชิกทั้ง 7 คน แจ็กสันเป็นหนึ่งใน สมาชิกที่ได้รับความนิยมมากจากบุคคลิกที่พิเศษและโดดเด่น มีอารมณ์ขันและเฟรนด์ลี่สุดๆ แต่สิ่งที่ทำให้แฟน ๆ นับล้านยังคงเหนียวแน่นมากว่าทศวรรษ คือความจริงใจ และความเอาใจใส่ของแร็ปเปอร์หนุ่มต่อสมาชิกวงและแฟน เพลง ดังที่ได้เห็นบ่อยครั้งในโพสต์ของเขาบนโซเชียลมีเดีย พูดกันตามตรงแล้ว…จะมีศิลปินสักกี่คนที่มักเขียนข้อความ ยาวๆ เปี่ยมด้วยความจริงใจ ไว้ให้แฟนเพลงแต่ละเมือง หลังจบคอนเสิร์ต?

แต่..เบื้องหลังบุคลิกที่สดใสเฮฮา ภายในกลับซุกซ่อน ความอ่อนไหวและจริงจังกับทุกสิ่ง และมีมากจนถึงขนาดที่ ทำาให้เขาจมสู่ภาวะซึมเศร้าโดยไม่รู้ตัว

ในการสัมภาษณ์หนึ่ง แจ็กสันยอมรับว่าเขาน็อคจนภาพตัดจากการเหนื่อยจัดหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วน หนึ่งเป็นเพราะเขาเข้มงวดกับตัวเองอยู่เสมอ

“ผมรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่ผมมีอยู่ในขณะนี้ แต่มันไม่ใกล้ กับจุดที่จะเรียกว่าพอใจได้เลย”

ก่อนหน้านี้ แจ็กสันล้มหมดสติระหว่างงานแฟนมีตติ้ง ที่ญี่ปุ่นในปี 2017 จนต้องเข้ารับการักษาในโรงพยาบาล เนื่องจากการทำงานหนักเกินไป และเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นซ้ำ อีกครั้งในปี 2018 ในงานแฟนมีตติ้งที่ประเทศจีน

ในระหว่างการทำอัลบั้มเดี่ยว Magic Man ในปี 2022 แจ็กสัน หวัง ก็ได้ยอมรับว่าตนเองกำลังประสบปัญหาจาก ภาวะบ้างานและรู้สึกเหมือนคนหลงทาง

“การอยู่ในวงการนี้มาระยะหนึ่ง ใช้ชีวิตแบบคนบ้างาน ต้องคอยแก้ปัญหาต่างๆ มากมาย ต้องหาทางออก สำหรับทุกสิ่งและทุกคนรอบตัวต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ผมมาถึง จุดที่รู้สึกว่า ยิ่งไปไกลเท่าไรก็ยิ่งหลงทางมากขึ้น ยิ่งจมดิ่ง และโดดเดี่ยวมากขึ้นเท่านั้น ทุกอย่างมันวนเวียนเป็นวงกลม เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำๆ ซ้ำๆ ผมไม่รู้ว่าผมอยู่ตรงไหน ไม่รู้สึก เชื่อมต่อกับใคร และเริ่มเชื่อว่าไม่ว่าจะคุยกับใครก็ไม่มีอะไร แตกต่างจากเดิม และเป็นครั้งแรกที่ผมเริ่มไม่อยากเจอใคร และพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเจอผู้คน มันมาถึงจุดที่ผมไม่ เหลือไฟและไม่มีแรงบันดาลใจใดๆ ที่จะคิด จะทำงาน จะทำให้ตัวเองมีมายด์เซ็ตที่แข็งแรง หรือแม้กระทั่งหายใจ”

วันหนึ่ง ในขณะที่แจ็กสันกำลังทำงานในสตูดิโอกับ โปรดิวเซอร์ ถึงแม้จะรู้สึกหดหู่ แต่เขาก็ยังพยายามทำงาน ต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งยังพยายามอย่างหนักที่ จะดันให้งานออกมาอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โชคดีที่ โปรดิวเซอร์สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ และยืนกรานที่จะให้หยุดบันทึกอัลบั้ม พร้อมกับขอให้แจ็กสันนั่งลงเพื่อคุย กันในทุกเรื่อง…เรื่องอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เรื่องงาน

จากการยื้อยุดที่จะทำงานต่อให้ได้ของแจ็กสัน และ การยืนกรานให้หยุดทำงานของโปรดิวเซอร์ กลับกลายมา เป็นช่วงเวลาของการยอมรับความจริงในที่สุด วันนั้น ทันที ที่แจ็กสันยอมรับว่าเขาต้องการความช่วยเหลือแล้วจริงๆ เขารู้สึกโล่งใจอย่างมาก

หลังจากเหตุการณ์นี้ แจ็กสันเริ่มแชร์ให้เพื่อนร่วมงาน และสตาฟใน TEAM WANG (แบรนด์เสื้อผ้าของเขา) ได้รู้ถึงปัญหาของตนเองมากขึ้น รวมถึงเรียนรู้ที่จะสื่อสารกับผู้อื่นรอบตัวมากขึ้นด้วย

“สุขภาพจิตมีความสำคัญมากในวงการนี้และในทุกวงการ แต่สำคัญเป็นพิเศษโดยเฉพาะกับวงการนี้”

ในวันนี้ แจ็กสัน หวัง ยังคงหลงใหลในงานดนตรี เหมือนเช่นเคย ถึงแม้จะผ่านไปเพียงแค่ 5 เดือนหลังจากทัวร์คอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายจบลง แต่เหมือนว่าแจ็กสันจะพร้อมแล้วสำหรับการเดินทางครั้งใหม่ แต่ไม่ว่าเขาจะดูยุ่งแค่ไหน เขาก็ไม่ลืมที่จะพูดคุยสื่อสารกับแฟนๆ รวมถึงคอยเตือนให้แฟนๆ ดูแลรักษาอารมณ์และสุขภาพจิตใจให้ดีอยู่เสมอ

ในการสัมภาษณ์กับนิตยสาร Variety แจ็กสันกล่าวว่า “ผมสามารถแชร์ประสบการณ์ของผมได้ แต่มันไม่ใช่เลคเชอร์หรืออะไร การจริงจังในกระบวนการทำงานอาร์ตเป็นเรื่องดี แต่อย่าให้ความสนุกหายไป เพราะเมื่อคุณสนุกไปกับมัน คุณก็จะมีความสุข อย่างที่สองคือ การมีกลุ่มคนที่คิดบวกรอบๆ ตัวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่เก่งหรือเจ๋งแค่ไหน ไม่ว่าจะในฐานะคนในวงการ หรือนอกวงการ หากรอบตัวคุณมีคนคิดลบๆ อยู่ด้วย มันจะทำให้คุณพังทลาย”

และนั่นก็ใช้ได้กับเราทุกคนด้วย คนดีและเพื่อนที่ดี สามารถสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตคุณได้อย่างคิดไม่ถึง ทีเดียว และต่อให้ไม่ว่าเราจะรักงานหรือมีความสุขกับงาน เพียงใด การบาลานซ์ชีวิตให้สมดุลก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะอะไรที่ไม่พอดีมักทำให้เราเอียงเสมอ และความสุข ของมนุษย์ไม่ได้มีแค่ด้านเดียว

อ่านฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารข้ามห้วงมหรรณพ ฉบับที่ 54 สมัครสมาชิก คลิ๊กที่นี่