
เพชรบูรณ์ ความเงางามในหน้าฝน
หลังจากไปเที่ยวเพชรบูรณ์ครบ 3 วัน แทนที่เราจะได้ มะขามหวานและสารพัดผลิตภัณฑ์จากมะขามมาเป็นของฝากเหมือนทุกครั้ง คราวนี้กลับมามีเรื่องเล่าของ สถานที่ ผู้คน ที่ได้ไปพบเห็น ตั้งแต่เขาค้อ ภูทับเบิก และ เมืองโบราณศรีเทพมาเป็นของฝากแทน
จังหวัดเพชรบูรณ์ตั้งอยู่ภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย สำหรับเรา เพชรบูรณ์เป็นเมืองที่มีหน้าตาหลากหลายเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ที่เห็นได้ชัด คือ ภูมิทัศน์บนเทือกเขา หลายคนอาจชอบเพชรบูรณ์ในหน้าหนาวเพราะเป็นฤดูกาลที่สวยที่สุด ผู้คนนิยมมาท่องเที่ยวชมทะเลหมอก สัมผัสอากาศหนาวเย็นบนภูเขา แต่การเดินทางไปเพชรบูรณ์ในช่วงหน้าฝนทำให้เราได้ค้นพบมุมมองใหม่ที่เปลี่ยนไป แน่นอนว่าสายฝนที่โปรยปรายสู่พื้นดินจะคืนความชุ่มชื้นเขียวขจีให้ป่าเขาปลุกความสดชื่น ให้พืชพรรณต่างๆที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวา และหลังฝนตกอากาศจะสะสมความชื้นไว้ได้ดีกลายเป็นทะเลหมอกหน้าฝนล่องลอยท่ามกลางความเขียวขจีของบรรยากาศโดยรอบเป็นเสน่ห์ความงามของหน้าฝนที่น่าประทับใจ
เขาค้อ สู่วรรค์บนดิน
ฝนโปรยลงมาละอองเย็นปกคลุมถนนคดโค้งตรงหน้า เรากำลังมุ่งหน้าขึ้นเขาค้อนานแล้วที่ไม่ได้กลับมาทางสายนี้ เมื่อขับผ่านที่ทำการไปรษณีย์เขาค้อ ฝนค่อย ๆ จางหาย ภาพตรงหน้ากระจ่างใสสองข้างทางแปลกตา รีสอร์ตหลากสไตล์ร้านรวง คาเฟ่สวยเก๋ จุดชมวิวใหม่ๆผุดอยู่ทั่วข้างทาง
เขาค้อเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีทิวเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อน ตั้งอยู่อย่างสวยงามภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี และเย็นจัดในฤดูหนาวที่มาของชื่อเขาค้อ ชาวบ้านเล่าว่า เพราะผืนป่าบริเวณเดิมมีต้นค้อ ซึ่งเป็นไม้ตระกูลปาล์มขึ้นอยู่มาก แม้ผ่านเวลามาเนิ่นนาน เขาค้อยังเป็นศูนย์รวมความหลากหลายของพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ มีแหล่งท่องเที่ยวที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติมากมาย ทั้งน้ำตกถ้ำหน้าผา จุดชมวิวทะเลหมอก ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราได้แวะชม คือ อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อเป็นอนุสาวรีย์สร้างด้วยหินอ่อนรูปสามเหลี่ยมสร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของทหาร ตำรวจ พลเรือนที่ได้พลีชีพในการสู้รบกับคอมมิวนิสต์ พระตำหนักเขาค้อ เป็นสถานที่ที่ในหลวงรัชกาลที่9และพระ ราชวงศ์ใช้ประทับแรมในโอกาสที่เสด็จมาทรงงานและเยี่ยม ราษฎรในพื้นที่จากนั้นแวะไปกราบสักการะพระบรมธาตุเจดีย์ กาญจนาภิเษกบริเวณยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของ พระพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาจากศรีลังกา โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานให้ราษฎรในพื้นที่เขาค้อ เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากยุติการสู้รบกับคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กแห่งเขาค้อที่ควรแวะไปชม คือ ทุ่งกังหันลมแหล่งผลิตพลังงานสะอาด ที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงเป็นทุ่งกว้างบนยอดเขา ไม่มีสิ่งกีดขวาง ทำให้ กังหันยักษ์จำนวน 24 ต้น ได้รับลมหมุนตลอดปี บริเวณโดยรอบ มีทุ่งดอกไม้ ไร่สตรอว์เบอร์รี ร้านกาแฟ ลานแค้มปิ้ง เรียกได้ว่า เป็นจุดชมวิวและมุมถ่ายภาพที่สวยงาม
หากใครอยากมาปะทะหมอกฝนคละเคล้าลมเย็น ๆ สร้างบรรยากาศฟีลกู้ดแบบไม่ซ้ำใคร แนะนำให้พักบนเขาค้อสักคืน ที่พักบนเขาค้อมีให้เลือกหลากหลาย ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณตำบลทุ่งสมอและแคมป์สน ยามเช้าออกมาชมทะเลหมอกสวย ๆ สามารถเลือกชมได้จากจุดชมวิวหลายแห่ง เช่น บริเวณศาลาชมวิว อยู่แถวที่ทำการไปรษณีย์เขาค้อจุดชมวิวบนฐานอิทธิ จุดชมวิวบนพระตำหนักเขาค้อ นอกจากได้สัมผัสธรรมชาติแบบชิดใกล้แล้ว อารมณ์ยามนั้นคล้ายอยู่ในสวนสวรรค์บนดิน เมื่อพระอาทิตย์ฉายแสงขึ้นตรงขอบฟ้า ม่านหมอกลอยพลิ้วไหวในหุบเขา เป็นความงดงามตราตรึงภายในใจมิรู้ลืมทีเดียว
ชมทะเลหมอก ดูดอกกะหล่ำปลิีที่ภูทับเบิก
ภูทับเบิกอยู่ห่างจากเขาค้อราว 80 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง เนื่องจากระหว่างทางมีฝนโปรยปรายเป็นช่วงๆ และต้องผ่านโค้งถึง 111 โค้ง สำหรับคนที่เมารถให้กินยาแก้เมาไว้เลย ภูทับเบิกตั้งอยู่ในอำเภอหล่มเก่า เป็นยอดเขาสูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,768 เมตร มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี เย็นกว่าเขาค้อจุดเด่นของภูทับเบิกที่เชื้อเชิญให้ต้องมาสัมผัส คือ ทะเลหมอกสวยอลังการ สวนกะหล่ำปลีเต็มภูเขา และทะเลดาวเต็มฟ้า บ่ายคล้อยขณะขับรถออกจากเขาค้อมุ่งหน้าภูทับเบิก สองข้างทางเขียวชอุ่มด้วยป่าไม้ ดอกไม้ป่า งอกงามสดชื่น พลันสายตาไปเห็นป้ายจุดชมวิวที่หลายคนบอกว่าต้องแวะ นั่นคือผาหัวสิงห์ เป็นจุดพักชมวิวแบบ 360 องศาลักษณะเป็นสันเขายื่นออกมาคล้ายหน้าสิงห์ แต่ทางเดินถึงหน้าผาเป็นทางดินค่อนข้างชัน ต้องจอดรถด้านนอก และเดินเข้าไปมาถึงแล้วจะมองเห็นทิวเขาเรียงรายสวยงามมีสายหมอกลอยผ่านมาให้ดูไม่รู้เบื่อ
อ่านฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารข้ามห้วงมหรรณพ ฉบับที่ 58 สมัครสมาชิก คลิ๊กที่นี่

สำหรับลูกค้าในประเทศ