Skip to content Skip to footer

ถ้าข้าวหอมมะลิหายไป

ข้าว คืออาหารที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะอาหารของชาวเอเชีย และข้าวหอมมะลิยังคงได้รับการยอมรับว่าเป็นข้าวที่ดีที่สุดในโลก เพราะความนุ่มและหอมที่เหนือกว่าข้าวสายพันธุ์อื่นในโลก ผลกระทบของโลกร้อนจึงถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติที่ไม่ใช่แค่ความมั่นคงทางอาหาร แต่ยังเป็นเรื่องของวิถีชีวิตและอัตลักษณ์ของไทยเลยทีเดียว

เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานข่าวที่ทำเอาคนรักอาหารต้องใจเสียว่า กิมจิหรือผักดองสไตล์เกาหลีอาจหายไปจากโลก เพราะผลผลิตผักกาดขาวซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของกิมจิได้ลดลงอย่างต่อเนื่องกว่าครึ่งของปริมาณผลผลิตทั้งหมดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์เกาหลีใต้คาดการณ์ว่า ไร่ผักกาดขาวในประเทศจะลดลงเรื่อยๆ จนหมดไปในปี ค.ศ. 2090 โดยปัจจุบันนี้ เกาหลีต้องนำเข้ากิมจิจากจีนในปริมาณมาก เพราะสินค้าขาดตลาดอย่างหนัก

วิกฤติกิมจิไม่ต่างอะไรกับวิกฤติข้าวไทย ในช่วงเกือบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยสามารถปรับปรุงพันธุ์ข้าวไทย และผลิตข้าวหลายสิบสายพันธุ์ที่ทนต่อโรคพืช แมลง น้ำท่วมขัง และภัยแล้ง รวมถึงสายพันธุ์ที่มีลักษณะและรสชาติเหมือนข้าวหอมมะลิ แต่ทนน้ำท่วมขังได้เป็นเดือน แต่กระนั้น ความรุนแรงของวิกฤติโลกร้อนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้ส่งผลต่อผลผลิตอาหารของโลกอย่างรุนแรงเช่นกัน

สิ่งที่ผู้บริโภคอย่างเราๆ จะสามารถช่วยได้ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นการปรับไลฟ์สไตล์ให้เบียดเบียนโลกน้อยลง เริ่มจากลดการใช้ไฟฟ้า หมั่นลบข้อมูลดิจิทัลเป็นประจำ และอย่าพึ่งพิงปัญญาประดิษฐ์นักถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เพราะศูนย์ข้อมูลที่เก็บข้อมูลมหาศาลในโลกไซเบอร์ 24 ชั่วโมงต้องใช้พลังงานมาก จนผลิตความร้อนในระดับเดียวกับเมืองเล็กๆ 1 เมือง ยังไม่รวมกับปริมาณกระแสไฟฟ้าและความร้อนที่เกิดมหาศาลจากการพัฒนาเอไอให้ฉลาดล้ำ ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ถ้าทุกคนสามารถปรับนิสัยในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ได้ การชะลอผลกระทบจะเป็นไปได้แน่นอน

อ่านฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารข้ามห้วงมหรรณพ ฉบับที่ 60 สมัครสมาชิก คลิ๊กที่นี่

สำหรับลูกค้าในประเทศ

สั่งซื้อนิตยสารได้ที่นี่