จะซื้อรถใหม่ รถน้ำ มันก็ไม่รักษ์โลก แต่รถไฟฟ้าก็ลังเล ยังไงดีนะ? “รถไฟฟ้าขับได้แค่จ่ายตลาด เอาจริงๆ ซื้อรถน้ำ มันน่ะแหละ คุ้มสุด” “หรือจะ PHEV เอาไฟฟ้าไว้จ่ายตลาด ขับไกล ค่อยใช้เชื้อเพลิง แต่กินน้ำ มันอีกอื้อ เพราะต้องแบกแบตก้อนโต
สารพัดคำ ถามสำ หรับคนที่จะซื้อรถใหม่ช่วงนี้ มีเทคโนโลยี ใหม่ทั้งที คอนเซปต์ฟังดูดี๊ดี ใจก็เปิดรับเกินร้อยไปละ แต่พอ จะซื้อ ยังงั้ยยังไงก็ยังทำ ใจไม่ได้ มันเพราะอะไรกัน… เพราะมี หลายอย่างให้พิจารณาน่ะสิครับ ทั้งความปลอดภัย ความอุ่นใจ และความคุ้มค่า
ประเด็นแรกก่อนเลย ขับรถไฟฟ้าคุ้มค่าจริงไหม?
รักษ์โลกน่ะแน่นอน แต่คุณผู้อ่านลองมองในมุมนี้ดูครับ ถ้าผมสมมติให้ราคาขายระหว่างรถไฟฟ้าและรถน้ำ มันเท่ากัน รถไฟฟ้าอาจดูเหมือนชนะในเกมนี้ เพราะต้นทุนของพลังงาน ไฟฟ้าถูกกว่าน้ำ มัน ค่าบำ รุงรักษารถไฟฟ้ารายปีถูกกว่าแน่นอน เพราะไม่มีน้ำ มันเครื่อง กรองอากาศ กรองเชื้อเพลิงที่ต้อง เปลี่ยน แต่สำ หรับคนที่เปลี่ยนรถบ่อย ในแง่ราคาขายต่อ ยังเป็นคำ ถามที่ชวนสงสัยว่า รถไฟฟ้าอาจมีแนวโน้มที่ราคา จะตกมากกว่ารถน้ำ มันหรือไม่ เนื่องจากแบตเตอรี่โดยทั่วไป จะเสื่อมสภาพภายใน 8 – 10 ปีและแบตเตอรี่ยังมีราคาที่แพง คนที่ซื้อต่อมือสองมักกลัวในกรณีที่จะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพราะดูเหมือนเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ ตรงนี้แหละครับ ที่รถน้ำ มันเจ้าเก่าอาจทำ คะแนนขึ้นมาชวนให้ซื้อมากกว่า
แล้วบ้านของคุณผู้อ่านเป็นประเภทใดครับ เป็นบ้านที่พอมี บริเวณหรือคอนโดมิเนียม?
อย่าลืมว่า รถไฟฟ้าก็ต้องชาร์จไฟฟ้าอยู่เสมอแทบทุกวัน (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานและลักษณะการขับขี่ของคุณ ผู้อ่านด้วยนะครับ) ถ้าอยู่คอนโดมิเนียมก็ต้องหาสถานีชาร์จ ตามที่ต่างๆ ซึ่งดูเหมือนจะมีจำ นวนมากขึ้น แต่รับประกันว่า ยังห่างไกลจากคำ ว่าเพียงพอ ไม่นับรวมเวลาที่โชคดีถึงคิวได้ เข้าชาร์จ แต่ต้นทุนของเวลา 30 – 40 นาทีที่เราต้องรอนั้นคุ้มค่า หรือไม่ อันนี้ต้องลองพิจารณาดู แต่หากลักษณะที่อยู่อาศัยเป็น บ้านที่พอมีบริเวณติดตั้งกล่องชาร์จได้ อย่าลืมคิดถึงต้นทุนของ กล่องชาร์จด้วย แม้รถไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีปลั๊กไฟเพื่อชาร์จไฟ บ้านติดมากับรถอยู่แล้ว แต่ก็ห้ามลืมเช็กว่า ไฟฟ้าที่บ้านเรา สามารถรองรับการชาร์จรถไฟฟ้าได้ด้วยหรือเปล่า
คิดไปปวดหัว ซื้อ PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicles) ไปเลยดีกว่าไหม ขับได้ทั้ง 2 ระบบ
คอนเซปต์อันนี้ฟังดูดีจริงๆ รักษ์โลกได้บ้าง ไฟหมด วิ่งน้ำ มันได้ต่อ ไม่ต้องกลัวว่ารถเราจะกลายเป็นภาระให้ต้อง หารถมายกกลางทาง แต่อย่าลืมว่า เรากำ ลังเอาข้อดีของ ทั้งสองพลังงานมารวมกัน ดังนั้นความจุกจิกก็คือคูณสอง ไปเลย เพราะมี2 ระบบให้ต้องดูแล เครื่องยนต์ก็ต้องบำ รุง รักษา แบตเตอรี่ถึงเวลาก็ต้องเปลี่ยน นี่อาจเป็นอีกเหตุผล หนึ่งที่ทำ ให้รถ PHEV อาจไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับรถไฟฟ้า Pure EV หรือรถน้ำ มัน ผมขอแอบกระซิบบอกคุณผู้อ่านว่า ผมนี่แหละครับ แฟน รถสองระบบตัวจริง ไปจ่ายตลาดจนถึงไปทำ งานได้ ตราบใดที่ ที่ทำ งานของคุณยังอยู่ในจังหวัดเดียวกัน ไฟฟ้าหมดกลางทาง
