Skip to content Skip to footer

เมื่อซามูไร ลุยตลาดรถไฟฟ้าอีกครั้ง

ในขณะที่ชาติยักษ์ใหญ่อย่างจีน ยุโรป อเมริกา ตบเท้าเข้าสังเวียนรถไฟฟ้า ญี่ปุ่นพระเอกยานยนต์ของเราอยู่ที่ไหน ออกตัวช้าไปไหมสำาหรับการแข่งขันในสมรภูมิอันระอุ?

ญี่ปุ่น หนึ่งในเจ้าสังเวียนเทคโนโลยียานยนต์ของโลก แน่นอนว่าระดับนี้แล้วไม่ใช่ว่าคิดไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่มี ถ้าจะบอก ว่า Toyota เคยเป็นผู้นำาในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV (Battery Electric Vehicle) มาก่อนตั้งแต่ยุค 90 กับการ เปิดตัว RAV4 EV ในตลาดสหรัฐอเมริกา Nissan LEAF ที่เปิดตัวรุ่นแรกในปี 2009 และอยู่ในอันดับ 7 รุ่นรถยนต์ ไฟฟ้าที่มียอดขายสูงที่สุดในโลกเมื่อปี 2020 ละก็ ฟังดูจะเท่ สมศักดิ์ศรียักษ์ใหญ่ยานยนต์อยู่ทีเดียว

แล้วทำไมผู้บริโภคอย่างเราๆ ถึงเพิ่งมาเห็นความเคลื่อนไหว วงการรถยนต์ไฟฟ้าฟากแดนอาทิตย์อุทัยเมื่อไม่นานมานี้ พี่ใหญ่ อย่าง Toyota เพิ่งประกาศจุดยืนเรื่องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อ ปลายปี 2021 พร้อมกับแผนการเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า ร่วม 30 รุ่นตลอดทศวรรษนี้ ด้วยเป้าหมายยอดขาย 3.5 ล้านคันในปี 2030 โดยหัวหอกของไลน์คือรุ่น bZ4X ที่ทำา ตัวเลขยอดจองสูงถึง 1,064 คัน ภายในระยะเวลา 60 นาทีแรก และ 3,356 คัน ภายใน 24 ชั่วโมง ทาง ต้นสังกัดจึงตัดสินใจปิดรับการจองในเวลา 20.00 น. ของวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา เทียบกับ ยอดจองอย่างเป็นทางการของเทสลาทั้ง Model 3 & ModelY รวม 4,424 คัน ใน 24 ชั่วโมงแรก ถือว่าไม่น้อยหน้าเท่าไหร่ กับการที่ดูเหมือนจะออกตัวช้าไปนิด

หากจะมองเหตุผลของการออกตัวช้า เราสามารถมองได้ จากโครงสร้างและปัจจัยต่างๆ ทางสังคมของประเทศญี่ปุ่น และ ทิศทางการบริหารของค่ายรถยนต์เอง สิ่งแรกที่มองเห็นได้ชัดคือ โครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการมีรถยนต์ไฟฟ้าที่จำากัด เช่น สถานี ชาร์จหรือแท่นชาร์จที่มีจำานวนไม่เพียงพอ โดยเฉพาะจุดที่มี ประชากรหนาแน่นอย่างในเมืองหลวง และการจะติดตั้งแท่น ชาร์จในที่พักอาศัยเองนั้นก็เป็นไปได้ยาก แม้รัฐบาลเองจะมี นโยบายชูรถยนต์ไฟฟ้าขนาดไหน

อีกเหตุผลคือ การกำหนดนโยบายลดการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ ภายในปี 2030 การเน้นการลงทุนในกลุ่ม พลังงานสีเขียว แต่ที่สุดแล้วการตบมือข้างเดียวโดยรัฐบาลย่อม ไม่ดัง หากเอกชนยังคงไม่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในการเปลี่ยน ผ่านไปสู่เทคโนโลยีใหม่ ผู้ประกอบการเองอาจยังเห็นว่า เทคโนโลยีเดิมที่ลงทุนไปนั้นน่าจะมีโอกาสอยู่สร้างยอด ขายได้นานกว่านี้ การเปลี่ยนผ่านจึงยังไม่สามารถทำาได้อย่าง รวดเร็วทันที อีกทั้งกลไกทางราคาของรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังมีราคา สูงอยู่เมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาปหรือไฮบริดเดิมที่ราคาจับต้อง ได้ แคมเปญสนับสนุนการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจากทางรัฐบาลให้ผู้บริโภคได้ผ่อนหนักเป็นเบา ก็ยังไม่สามารถเบาได้เท่ากับการซื้อ รถยนต์สันดาปหรือไฮบริด การเจริญเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า ต่อรถยนต์สันดาปหรือรถยนต์ไฮบริดเดิมจึงยังมีความต่างกัน อย่างลิบลับ

แต่กระแสรักษ์โลกมาแรงขนาดนี้ มีหรือที่ผู้ประกอบการ ยานยนต์ระดับโลกจะไม่ขึ้นรถไฟขบวนนี้ด้วย หากโตในบ้าน ลำาบาก ก็ต้องมาทำาตลาดนอกบ้านให้ปัง! นอกจากค่ายยักษ์ อย่าง Toyota จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าขนานแท้อย่าง bZ4X ทางบริษัทยังเปิดตัวรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ๆ ที่แต่ละ คอนเซ็ปต็มีความว้าวจริงๆ เช่น รถยนต์ไฟฟ้าพลังงาน ไฮโดรเจน ที่อาจสามารถก้าวข้ามปัญหา Infrastructure เรื่องแท่นชาร์จที่ใช้เวลาชาร์จนานและมีอยู่อย่างจำากัดไปได้

แต่การลงทุนก็จะเป็นการลงทุนพื้นฐานในอีกแบบหนึ่งที่ ต้องมาจับตาดูกันต่อไปว่า เทคโนโลยีรถยนต์พลังงานทางเลือก ที่กำาลังจะตบเท้ากันเข้ามาจากฝั่งแดนอาทิตย์อุทัยนั้นจะมีความ เป็นไปได้ในประเทศไทยมากน้อยแค่ไหน ไว้มาคุยกันต่อใน เล่มหน้านะคะ