
หลังจากชุบชีวิตให้กับแบรนด์หรูที่ดูจะซบเซาให้ปังขึ้นมาอีกครั้ง อย่าง Volvo และ Polestar กลุ่มบริษัทจากจีนอย่าง Geely ก็ จัดการชุบชีวิตแบรนด์รถสปอร์ตในตำนานอย่าง Lotus ให้กลับมาผงาด หน้าสื่อได้อีกครั้งกับ SUV ไฟฟ้าล้วนที่ไม่ทิ้งกลิ่นอายของนักซิ่งสายโรดสเตอร์แต่อย่างใดอย่าง Lotus Eletre ที่แค่เปิดตัวก็สร้างความว้าวแบบสมศักดิ์ศรีแบรนด์รถสปอร์ตผู้ดีอังกฤษที่มีอายุกว่า 75 ปี พอๆ กับ Porsche ที่เพิ่งมีการเฉลิมฉลองครบ 75 ปีกับเขาไปเหมือนกัน
ถ้าพูดถึง Lotus คุณผู้อ่านก็คงจะนึกถึง Sport Roadster 2 ประตู น้ำหนักเบาที่มีทั้งความดิบและความแรง แล้วคนทำรถสปอร์ต จะมาทำรถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัว จะออกมาเป็นยังไงกันนะ?
นี่คงเป็นการบ้านขนานหนักของวิศวกรอยู่เหมือนกันที่มีโจทย์คู่แข่งเป็น Porsche Cayenne ที่พิสูจน์ตัวเองจนครองบัลลังก์ SUV สุด หรู แต่ Lotus Eletre ที่เปิดตัวออกมาให้พวกเราได้ยลนั้น บอกได้เลย ว่า “ไม่แพ้”
ตั้งแต่การดีไซน์ที่เส้นสายยังคงความดิบแบบสายซิ่งบวกกับ เครื่องยนต์ไฟฟ้าล้วนสุดโหดขนาด 900 แรงม้า แรงบิดเกินพัน อัตรา เร่ง 0-100 ใน 2.9 วินาที น้ำหนักเบาแต่ยึดเกาะได้ดีเสมือนมีการออกแบบอากาศพลศาสตร์ที่เหมือนถอดแบบมาจากเอกลักษณ์ของรถสปอร์ต วิ่งได้ไกลสุด 490 กิโลเมตร ในรุ่น Eletre R และ 600 กิโลเมตร ในรุ่น Eletre S ที่ดูเหมือนแรงม้าและแรงบิดจะน้อยกว่าพี่ใหญ่ แต่ก็เรียกได้ว่าเหลือแหล่
Lotus Eletre ยังล้ำยิ่งขึ้นในแทบทุกจุด คุณจะไม่เคยเห็นรถยนต์ที่กระจกหรือหูช้างบ้านเราที่เป็นกล้องจริงๆ… ใช่ค่ะ มันคือ “กล้อง” จริงๆ และส่งภาพมาที่จอด้านข้างคนขับ จนอาจจะต้องฝึกความเคยชินแทนที่จะมองออกไปนอกรถแบบหูช้างปกติ และ เมื่อเป็นกล้องจริง ก็สามารถปรับวิสัยทัศน์ให้เห็นชัดได้แทบทุกจุด ไม่พอแค่นั้น ระบบความปลอดภัยจัดเซ็นเซอร์มา 34 ตำแหน่ง ระบบ Driver Monitoring System แจ้งเตือนหากผู้ขับขี่เกิด อาการเหนื่อยล้าหรือเสียสมาธิ ระบบ Life Detection and Care ที่จะช่วยมอนิเตอร์เด็กหรือสัตว์เลี้ยงที่ถูกปล่อยอยู่ในรถโดยเฉพาะ เมื่ออากาศร้อนจัด และสามารถแจ้งเตือนหน่วยงานฉุกเฉินหากเกิดเหตุจำเป็น ไม่นับรวม Highway Assist ทำให้การขับขี่ทางไกลง่ายดายขึ้น เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วระหว่าง 30-150 กม./ชม. โดยจะช่วยบริหารความเร็วและจัดตำแหน่งรถยนต์ในช่องทาง
พูดถึงระบบขับขี่อัตโนมัติขั้นสูง Lotus Eletre ก็อัปมาให้ถึง Level 4 เพื่ออนาคต โดยจะมีการอัปเดตระบบแบบ OTA (Over-the-air) ผ่านเครือข่าย 5G ในภายหลัง ทางแบรนด์กล่าวว่า “ลูกค้าสามารถใช้แอปบนสมาร์ตโฟนของตนเพื่อขอให้ Eletre เคลื่อนตัวจากที่จอดรถในบริเวณใกล้เคียงมาหาโดยอัตโนมัติ จากนั้นเมื่อขับและลงจากรถแล้ว Eletre จะเข้าสู่ระบบจอดรถโดยอัตโนมัติเมื่อการเดินทางเสร็จสิ้น โดยขับไปหาที่จอดเอง !” นี่ แหละรถในฝัน…
การออกแบบและวัสดุในตัวรถมีความพรีเมียม และมีหลายจุดที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิล เช่น เบาะที่นั่งเส้นใย Re-Fibre จาก ขยะแฟชั่น พรม Econyl ที่นำไปรีไซเคิลได้ 100% ระบบเสียง ก้องกังวานจากลำโพง KEF Premium Audio 1,380 W 15 ตำแหน่ง และอีกมากมายที่รับประกันความว้าว…
ไม่ใช่ SUV ธรรมดา แต่เป็น Hyper SUV ที่ถอดหัวใจนักขับ สายสปอร์ตสุดล้ำนี้มาในราคา 6 ล้านมีทอน มารอดูกันบนท้องถนนช่วงต้นปี 2024 กันนะคะ
อ่านฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารข้ามห้วงมหรรณพ ฉบับที่ 54 สมัครสมาชิก คลิ๊กที่นี่