
มุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออก พาเที่ยวไม่ไกลกรุงเทพฯ ขับรถสองชั่วโมงนิดๆ ก็มา ถึงจังหวัดระยอง แม้ด้านหนึ่งจะเป็นเมือง อุตสาหกรรม แต่ระยองก็เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ เป็นจุดหมายของใครหลายคน ไม่ว่าจะมาพัก ผ่อนริมชายหาดที่สวยงาม เข้าป่าชมธรรมชาติ เดินเล่นย่านเก่า หรือไปชิลที่คาเฟ่สุดชิก
คนระยองบอกเราว่าเมืองฝั่งตะวันออกนี้ ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ฝนตกชุกตลอดปี คนระยอง แต่ไหนแต่ไรมาพึ่งพาธรรมชาติ เที่ยวระยอง คราวนี้ไปแบบ One day trip กินอย่างคน ระยอง สนุกอย่างคนระยอง อยู่อย่างคนระยอง กันดูสักที
ท่องย่านเก่าเมืองระยอง
เริ่มต้นที่ถนนยมจินดา ถนนสายหลักเส้นแรกของระยอง ทอดยาวขนานไปกับแม่น้ำ ระยอง สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยดำ ริของพระศรีสมุทรโภค (อิ่ม ยมจินดา) เจ้าเมืองระยอง คนสุดท้าย เมื่อมีการตัดถนนเกิดขึ้นความเจริญก็เข้ามา ทำ ให้ มีการตั้งชุมชนกระจายตัวริมสองข้างทาง หากย้อนกลับไปร้อย กว่าปีก่อน ถนนยมจินดาเป็นย่านการค้าที่มีความรุ่งเรือง เป็นที่ ตั้งของสถานที่สำ คัญมากมาย เช่น ธนาคาร วัด ตลาด ศาลเจ้า โรงหนัง โรงสี ฯลฯ บางมุมคล้ายคลึงกับถนนเจริญกรุง ซึ่งเป็น ย่านการค้าในอดีตของกรุงเทพฯ
ทุกวันนี้ความเก่าแก่แต่ไม่เก่าเก็บได้รับความร่วมมือจาก หลายฝ่าย ตั้งแต่ชาวบ้านถึงภาครัฐ อาคารบ้านเรือนยังคง อนุรักษ์ไว้ ทำ ให้ตลอดระยะทางกว่า 700 เมตร เดินเล่นได้ สบายๆ ซึมซับบรรยากาศชุมชนเก่าแก่สองข้างทางที่เต็มไปด้วย สถาปัตยกรรม ตึกแถว อาคารไม้ และศิลปะพื้นถิ่นที่ยังหลง เหลือเค้าลางของความเจริญให้เห็นอยู่ และได้รับการต่อยอด เป็นพื้นที่เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ใครชอบบรรยากาศเมืองเก่า ต้องไม่พลาดมาถ่ายรูปเช็กอิน
• บ้านเจ้าเมืองต้นตระกูลยมจินดา เป็นบ้านไม้ทรงปั้น หยาสีฟ้า ติดริมแม่น้ำ ระยอง ภายในตัวบ้านมีของสะสมของเจ้าบ้านจัดแสดงตามมุมต่างๆ ปัจจุบันตัวบ้านเปิดเป็นร้านอาหาร ต้นตำ รับระยองแท้ๆ โดยทายาทตระกูลยมจินดา
• ตึกเถ้าแก่เทียน อดีตเคยเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรก ของระยอง ตัวตึกเป็นศิลปะชิโนโปรตุกีส ตกแต่งด้วยปูนปั้น พรรณพฤกษาที่บริเวณหน้าจั่วและเหล็กดัดหน้าต่าง รูปตรา ธนาคารนครหลวงไทย ภายหลังเปิดเป็นแกลเลอรีศิลปะ มีชื่อว่า ดาวินชี สตูดิโอ หรือ วิกเถ้าแก่เทียน ภายในมีหนังสือ ของสะสม ภาพวาด ภาพถ่ายที่หาชมได้ยากรวบรวมมาจัดแสดง และมีมุม จัดไว้สำ หรับการฉายภาพยนตร์ รวมทั้งมุมนั่งพักผ่อน จิบชา กาแฟ โดยมีกล่องให้หยอดเงินตามอัธยาศัย
• บ้านสัตย์อุดม บ้านขุนนางเก่าที่ถูกปรับปรุงเป็น พิพิธภัณฑ์เมืองระยอง เป็นที่รวบรวมของโบราณ แสดงถึงวิถี ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวระยองในอดีต
• บ้านมาลีวณิชย์ บ้านไม้หลังใหญ่สไตล์ร้านค้าชาวจีน กั้น ผนังด้วยไม้ฝาแบบบานเกล็ด ประตูบานเฟี้ยม มีความโมเดิร์น ด้วยการใช้กระเบื้องโมเสกจากอิตาลีปูพื้น เป็นแบบบ้านที่ค่อน ข้างสมบูรณ์ ปัจจุบันบ้านนี้เป็นร้านขายหนังสือและหมอนทำ มือ ของชาวจีน
• หลานเอก คอฟฟี่เฮาส์ คาเฟ่สไตล์วินเทจกึ่งพิพิธภัณฑ์ เพื่อชุมชน ตั้งอยู่ในตึกกี่พ้ง เป็นตึกแบบตะวันตกหลังแรกของ เมืองระยอง เป็นคาเฟ่ที่ควรค่าแก่การมาเยือนสักครั้ง
• ศาลเจ้าแม่ทับทิม ก่อตั้งมาก่อนจะมีถนนยมจินดา เป็น ศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีนและยังเป็นพื้นที่เชื่อม กิจกรรมของคนระยองทุกรุ่นเข้าด้วยกัน
• Converstation เป็นพื้นที่ Co-learning space คนที่นี่ เรียกว่าบ้านเหลือง ก่อตั้งโดยคนรุ่นใหม่ เปิดให้ทุกคนที่อยาก เรียนรู้และค้นหาตัวตน ไม่ว่าจะมานั่งอ่านหนังสือ เล่นเกม แลก เปลี่ยนผ่านหนัง หรือตั้งวงดิเบต
ชมธรรมชาติป่าชายเลนที่ทุ่งโปรงทอง

ขับรถออกจากตัวเมืองระยองมาไม่ไกล ไปสัมผัสอีก หนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจ ก็คือ ทุ่งโปรงทอง ซึ่งเป็นป่าชายเลน อยู่บริเวณปากน้ำ ประแส อ.แกลง ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ไฮไลต์ของที่นี่คือ เมื่อเดินมาที่จุดชมวิวก็จะพบกับทุ่งต้น โปรงกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา โดยสีของใบจะเปลี่ยนไปตาม ทิศทางของแดด บรรยากาศงดงามมาก ซึ่งจะสวยงามที่สุดใน ช่วง 11.00-15.00 น. ที่จะเปลี่ยนเป็นทุ่งสีทองงามอร่ามตา มี สะพานไม้ให้เดินชมธรรมชาติ ถ่ายรูปเล่นเพลินๆ ได้ตลอดเส้น ทาง ทุ่งโปรงทองสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เปิดให้เข้าชม ฟรีทุกวัน ตั้งแต่ 6.00-18.00 น.
ขับรถชมวิวทะเลที่หาดแสงจันทร์
ใครไม่เคยมาที่นี่มีอันต้องงงกันบ้าง เพราะหาดแสงจันทร์ ไม่ได้ตั้งอยู่บนเกาะ ขับรถจากตัวเมืองระยองประมาณ 7 กม. ก็ จะพบทะเลใสที่หาดแสงจันทร์ เมื่อแสงแดดตกกระทบน้ำ ทะเล จะกลายเป็นสีฟ้าสวยงามไม่แพ้ทะเลบนเกาะที่ไหนเลย ไม่ผิด จากคนระยองบอกไว้ว่า “หาดแสงจันทร์ไม่ใช่ทางผ่านของนัก ท่องเที่ยว ต้องเจาะจงเข้ามา”
ชื่อเสียงเรียงนาม หาดแสงจันทร์ หรือ Moonlight Beach ได้มาแต่ครั้งที่มีการวางหินกั้นเป็นช่วงๆ เป็นแนวเขื่อน เพื่อ ป้องกันคลื่นเซาะชายหาด หลังจากที่มีการวางหิน ชายหาดจึง มีลักษณะโค้งเล็กๆ ต่อกันเป็นทางยาวทำ ให้เกิดแอ่งน้ำ ขึ้นตาม ชายฝั่งและก่อตัวเป็นรูปคล้ายพระจันทร์เสี้ยวที่สวยงามแปลกตา จึงถูกเรียกว่าหาดแสงจันทร์นับแต่นั้น
สำ หรับเราถือเป็นช่วงเย็นของวันที่ดีมากๆ เป็นความรู้สึก ของการมาพักผ่อนจริงๆ ด้วยหาดแสงจันทร์เป็นชายหาดที่สงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน มีถนนเลียบยาวตลอดชายฝั่ง ขับรถชมวิวรับ ลมทะเลได้ง่าย มีพื้นที่ให้นั่งปูเสื่อ และสามารถนำ เก้าอี้สนาม ไปนั่งปิกนิกเองได้ บริเวณถนนริมหาดมีร้านอาหาร ร้านรถเข็น ขายของกิน และที่พักหลากหลาย บางที่พักเดินไม่กี่ก้าวก็เอาเท้า จุ่มทะเลได้ ใครยังไม่เคยมีโอกาสไปเยือน ขอแนะนำ เลย สวย ประทับใจจริงๆ

นั่งชิลคาเฟ่ริมชายหาด ที่หาดแหลมเจริญ
ขับรถเลียบชายหาดแสงจันทร์ต่อมาอีกนิดก็ถึงหาดแหลม เจริญ สองหาดนี้ถูกกั้นด้วยรูปปั้นนางยักษ์ตัวละครเอกใน วรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี
จุดเด่นของชายหาดแหลมเจริญคือ บริเวณชายหาดเต็ม ไปด้วยคาเฟ่แบบ Coffee Truck สไตล์แค้มปิ้งสุดน่ารักไม่ต่ำ กว่าสิบร้าน แถมน่านั่งทุกร้าน บรรยากาศดีมาก หาดสะอาด คลื่นสงบ ลมพัดเย็นสบาย ถูกใจร้านไหนจอดรถริมทาง แวะ จิบกาแฟ กินขนม นั่งชิลได้ยาวๆ รอชมพระอาทิตย์ตก ถือเป็น Sunset Vibes ของหาดแสงจันทร์ที่ไม่ควรพลาด ใครชอบมู้ด คาเฟ่ริมทะเล บอกเลยต้องมา เพราะคาเฟ่ทุกร้านตั้งอยู่ริมทะเล จริงๆ สายคอนเทนต์ สายถ่ายรูป รับรองชอบแน่นอน นอกจาก คาเฟ่แล้วหาดแหลมเจริญยังเป็นที่ตั้งของบ้านเรือนชุมชนประมง ริมเล ทำ ให้ที่นี่มีร้านอาหารทะเลสดและอร่อยหลายร้าน บาง ร้านก็ปรับปรุงมาจากบ้านชาวประมง รวมทั้งยังมีตลาดประมง พื้นบ้านขายทั้งอาหารทะเลสดและของแห้งให้ซื้อกลับบ้าน
อ่านฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารข้ามห้วงมหรรณพ ฉบับที่ 59 สมัครสมาชิก คลิ๊กที่นี่
สำหรับลูกค้าในประเทศ