
สังคมไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ จนดูเหมือนว่า ความห่างชั้นของผู้ที่รู้คิด ไตร่ตรองผิดถูกด้วยเหตุผล ห่างกันมากเหลือเกิน เหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้อาจารย์หวนคิดถึงพุทธทำนายที่พระพุทธเจ้าตรัสทำนายถึงสิ่งที่จะเกิดตามความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล โดยขอยกมาเพียง 3 ข้อดังนี้
- คนเอาแก่นจันทน์ราคาแพง ไปแลกกับเปรียงเน่า หมายถึง ศาสนาเสื่อม เต็มไปด้วยอลัชชี พระภิกษุไม่สอนธรรมอย่างเที่ยงตรง ประชาชนไม่ใส่ใจธรรมแท้ เน้นแต่เรื่องแปลกใหม่ เน้นคำพูดที่มีวาทศิลป์แล้วยกย่องเชิดชู
- น้ำเต้าแห้งจมน้ำ หมายถึง ถ้อยคำของคนไม่มีสกุล รวมถึงคนสถุลและพระทุศีลจะเป็นที่เชื่อถือยอมรับในสังคม
- หินแท่งใหญ่ลอยน้ำ หมายถึง ภายหน้าถ้อยคำบัณฑิตและพระผู้ทรงศีลจะไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม แต่จะหันไปยกย่องชื่นชมอลัชชี พวกมิจฉาทิฏฐิทั้งหลาย
นับวันความลวงและความเลวทรามทวีความรุนแรงและถาโถมเข้ามาทุกทิศทาง แม้กระทั่งในระดับประชิดตัว เช่น เรื่องคอลเซนเตอร์
เร็วๆ นี้หลานของอาจารย์ก็ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกว่าเป็นตำรวจ เป็นวิดีโอคอลแสดงตนเป็นผู้แต่งเครื่องแบบ ฉากหลักเป็นสถานีตำรวจ มันอ้างว่าหลานเกี่ยวพันกับการฟอกเงินพวกมันรู้ข้อมูลการเดินทางและข้อมูลอื่นๆ ของหลานตั้งแต่วัยเด็ก ด้วยการแสดงภาพจากบัตรประชาชนให้ดู เมื่อแรกหลานก็กลัว ตื่นตระหนก พวกนี้ก็บังคับให้หลานวิดีโอคอลแบบไม่ให้บอกใคร ตะล่อมหลานไปเรื่อยๆ ว่าจะตรวจสอบเส้นทางการเงิน ด้วยการจะให้โอนเงินให้ โชคดีที่พ่อซึ่งคือพี่ชายของอาจารย์ เข้ามาแก้ไขสถานการณ์ไว้ทันท่วงที
สรุปได้ว่า ที่แก๊งคอลเซนเตอร์รู้ข้อมูลเชิงลึกของเหยื่อได้ ก็เพราะมีคนในที่เป็นพวกข้าราชการขายข้อมูลประชาชนนับล้านให้แก๊งพวกนี้ มันจึงรู้ว่าไปไหนมาผ่านการโอนเงิน รวมทุกประวัติด้านธุรกรรมต่างๆ อย่างละเอียด จนทำให้คนขวัญอ่อน เสียขวัญและหลงเชื่อ พี่ชายอาจารย์เป็นคนอารมณ์ดีและหัวไว รู้เล่ห์พวกนี้ และมีวิธีตอบกลับแบบแปลกๆ
วันหนึ่งพี่ชายถูกแก๊งคอลเซนเตอร์โทรมาแสร้งว่าเป็นคนรู้จักกัน สมมติว่าชื่อชม โทรมาบอกว่า ตัวเองเปลี่ยนเบอร์ โทรศัพท์ใหม่แล้วนะ
“ชมไหน เรารู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่” พี่ชายถาม
นางชมเห็นพี่คุยต่อ เลยคิดว่าหมูกำลังจะเข้าปากหมา ก็เลยคุยหลอกล่อสักพัก สุดท้ายก็จบที่ขอให้พี่ชายโอนเงินให้ห้าพัน พี่ชายบอก
“ห้าพันไม่มี มีห้าสิบบาทเอามั้ย”
เจอแบงก์ห้าสิบลอยมาตามสาย นางชมเปลี่ยนจากเสียงหวานเป็นนางมารส่งเสียงด่ากลับ
“ไอ้เวร” แล้ววางสายทันที…
เราอยู่ในโลกที่เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
หากคิดว่าเราตื่นแล้ว รู้เท่าทันโลกแล้ว ก็ต้องตื่นอีก และรู้เท่าทันโลกให้มากยิ่งขึ้น เพื่อปรับตัวให้ทัน ไม่ใช่ปรับเฉพาะทางธรรม ทางโลกก็ต้องปรับให้ทันเล่ห์เหลี่ยม และต้องวางแนวทางชีวิตอย่างมั่นคง มิฉะนั้น ชีวิตนี้จะตกเป็นเหยื่อของโลกซ้ำไปอีกชาติหนึ่ง ความเสื่อมใดที่จะต้องเกิดตามพุทธทำนายเป็นสิ่งที่จะไม่เกิดไม่ได้ แต่เราสามารถรอดพ้นจากความตกต่ำ และความล่อลวงได้หากใช้ปัญญาไตร่ตรองและมีบุญรักษา
ลองทายสิว่าในปีที่ผ่านมา กิจต่างๆ ในมุมมองของอาจารย์ อะไรเป็นสิ่งที่ทำยากที่สุด…
สิ่งที่ทำยากที่สุดของอาจารย์คือ การอัดคลิปสอน “ธรรมแล้วดี” เพราะมันคือการพูดที่ผิดธรรมชาติ พูดหน้ากล้อง พูด กับตุ๊กตา ซึ่งมันประหลาดและตรงกันข้ามกับธรรมชาติมาก แม้จะปฏิเสธเรื่องแบบนี้มานาน แต่เมื่อเห็นมิจฉาทิฏฐิเกลื่อนเมือง อาจารย์ก็ยอมละทิ้งความไม่ชอบ ความไม่คุ้นเคยลงไปทำ เพื่อให้สังคมฉุกคิดและให้คนมีวาสนายังดำรงมั่นในพระธรรมคำสอน ที่ถูกต้อง
แล้วรู้มั้ยว่าอะไรที่โหดที่สุดในกิจที่ผ่านมา…
คำตอบคือ การเผชิญกับคลื่นความร้อนที่อียิปต์คือสิ่งที่โหดที่สุดต่อกายเนื้อ ที่ผิวหน้าที่เปราะบางมากของอาจารย์ จนไม่สามารถอยู่ท่ามกลางแดดร้อนจัดได้ วันใดที่ออกไปกลางแจ้งแดดร้อนแบบทะเลทรายอียิปต์ ผิวเหมือนโดนทุบด้วยความร้อน ต้องนอนปิดม่านแล้วเอาครีมโปะลงไปเพื่อให้รอดได้ในแต่ละวัน
ส่วนกิจที่เบิกบานเรียกรอยยิ้มมากที่สุดคงหนีไม่พ้น งานวัดย้อนยุค ณ คลองบางกอกน้อย ที่เหล่าศิษย์พร้อมใจกันจัดเต็ม สร้างภาพแห่งความทรงจำวัยเด็กได้อย่างทำถึง ความชื่นใจส่งท้ายปีหนีไม่พ้นงานภาวนาเพื่อแผ่นดิน ที่มีศิษย์รวมตัวกันมาภาวนากันมากมาย ซึ่งหมายถึงแรงส่งของบุญที่ตอบแทนคุณของชาติก็เพิ่มทวีคูณขึ้นด้วย
การประกอบบุญใหญ่ๆ อีกนัยหนี่ง ก็เป็นการเปิดโอกาสให้ได้แก้ไขตนเองด้วยการทำชีวิตให้มีคุณค่า
มีหินสองชนิดในโลกที่อาจารย์ชื่นชอบเป็นพิเศษ คือ หินอ่อนที่มีริ้วสีเทาแทรกมาด้วย กับทราเวอร์ทีน ที่เป็นหินปูนรูป แบบหนึ่ง ที่เกิดจากการตกตะกอนของแร่ธาตุต่างๆ และน้ำพุใต้ดิน และถูกบีบอัดด้วยน้ำพุร้อน ทำให้เนื้อหินออกสีเบจ มีรอยพรุนเป็นแถบๆ ช่วงๆ หินทั้งสองชนิดเป็นหินธรรมชาติที่สวย และมีความพิเศษในตัวเอง หินอ่อนที่ขาวบริสุทธิ์ทั้งผืนแบบแทบไม่มีแร่สีเทาแทรกซึมมาด้วยดูไม่สวย หินทราเวอร์ทีนที่หากไม่มีรอยพรุนเล็กๆ ก็ดูไม่พิเศษเช่นกัน
หินสองชนิดที่สวยงามก็เปรียบเหมือนมนุษย์ที่มีความไม่สมบูรณ์ หรือมีรอยด่างในตัวเอง ต่อเมื่อเขาผ่านร้อนผ่านหนาว สู้อดทนต่ออุปสรรค ไม่ท้อถอยจนสิ้นสภาพ มีความมั่นคง พากเพียรฟันฝ่าความไม่เพอร์เฟกต์ที่ติดตัวมา ก็จะกลับกลาย เป็นรอยด่างที่ยกคุณค่าชีวิตให้สวยงาม ให้มีเรื่องไว้เล่าขานถึงการเดินทางที่กว่าจะได้ถึงฝั่งฝัน
ศิษย์ทุกคนที่มั่นคงอยู่ในทาง เป็นผู้อุทิศตน ทำตนให้มีคุณค่า และมุ่งมั่นสร้างบารมี ก็คือหินอ่อนและหินทราเวอร์ทีน ของอาจารย์ ที่แม้จะมีรอยด่างหรือริ้วรอยที่ถูกกัดกร่อน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องคอยมองความสวยงามที่แทรกตัวอยู่ภายใต้เนื้อในเสมอ
LOVE : การที่เรายืนหยัดอยู่มาถึงพ.ศ. นี้ได้ก็เพราะเรามีความรักให้กับตัวเอง รักที่จะเห็นตัวเองมีความสุข รักที่จะมอบความสุขให้กับผู้อื่น รักที่จะเห็นคนอื่นๆ มีความสุข ความรักนั้น มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ สามารถทลายกำแพงอุปสรรคใดๆ ได้เสมอ โดยเฉพาะกำแพง NO ที่มันกักขังศักยภาพและบารมีเดิมเอาไว้ เพราะเรามีความรัก ความศรัทธา ที่แยกสายออกไปเป็นความกตัญญู มนุษย์จึงทำอะไรได้มากมาย
ความเพียร เป็นอำนาจวิเศษของมนุษย์ เมื่อใดที่มนุษย์ฮึด เกิดความพากเพียรแล้ว ย่อมสามารถสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิด ได้ อันใดที่ว่ายาก อันใดที่เป็นไปไม่ได้ ก็ล้วนเกิดขึ้นและสำเร็จได้ ด้วยพลังของความพากเพียรทั้งนั้น
ขึ้นพุทธศักราชใหม่แล้ว รักษาความรักไว้ให้มั่นคง อย่าหวั่นไหวกับรอยด่างในชีวิต ไม่ว่ารอยจะมีมาในรูปของวิบากกรรม ในรูปของการกระทำที่ผิดพลาดในอดีต ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ และอยู่ด้วยความรักตัวเอง ไม่ยอมให้ตนตกต่ำ ตกชั้น ตกที่นั่งลำบาก ก็ยังมีโอกาสแก้ไข ก็พึงมีความเพียรอย่างมั่นคง ไม่ว่ากระแสในโลกนั้นจะเชี่ยวกรากอย่างไร แรงบุญจากความกตัญญู จะพยุงและประคองให้ผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้
HEALTH : รักตัวเองแล้วก็ต้องรักและถนอมร่างกายตัวเองด้วย ต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง นอกเหนือจากการดูแลเรื่องโภชนาการแล้ว การภาวนาอย่างมีวินัย ก็เป็นการถนอมสุขภาพตนเองจากสิ่งที่อาจคืบคลานมาทำลายสุขภาพด้วย
เร็วๆ นี้อาจารย์ได้เห็นภาพผู้ป่วยคนหนึ่ง เขาเป็นโรคมะเร็ง ใบหน้าปูดบวมออกมาเหมือนคนเป็นโรคกุฏฐัง เขาได้รับทุกขเวทนาเป็นอันมาก จะตายก็ไม่ถึงคราตาย จะอยู่ก็แสนจะทรมาน ความจริงที่ยิ่งกว่าการเป็นโรคมะเร็งก็คือโรคกรรม เพราะจิตของเขาประกอบกรรมไว้หนักมาก เมื่อกรรมฝังอยู่ในจิต แล้วจิตอยู่ในกาย ถึงเวลาที่กรรมส่งผลก็ส่งผ่านกาย กลายเป็นโรคที่น่าสยดสยอง หากเราหมั่นชำระความไม่บริสุทธิ์ที่เป็นพิษกัดกร่อนจิตอยู่ในจิต การชำระก็จะส่งผลให้มีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคที่หาสาเหตุไม่ได้
การรักตัวเอง ดูแลถนอมสุขภาพให้ดี เป็นฐานสำคัญให้มีสถานีที่แข็งแรงไว้สร้างอนาคต เมื่อรักตัวเอง ย่อมไม่ทำตนให้ตกต่ำ ย่อมเป็นผู้รู้คิดพิจารณา ไม่เอาแก่นจันทน์ราคาแพง ไปแลกกับเปรียงเน่า
FUTURE : ใช้ชีวิตด้วยการโฟกัสกับการทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพื่อเป็นแรงส่งให้มีอนาคตที่ดี อนาคตจะดีได้ต้องมีความรักเป็นฐาน มีความเพียรเป็นแรงขับเคลื่อน และต้องเอาใจใส่ หมั่นตรวจสอบการเดินทางในชีวิตอย่างสม่ำเสมอ ไม่ประมาทพลั้งปล่อยให้ชีวิตเดินหลงทิศ เพราะในทุกช่วงเวลาของชีวิต ทุกคนย่อมประสบวิบากน้อยใหญ่มาทดสอบความมั่นคงแห่งใจจน ทำให้รู้สึกแพ้พ่าย ยอมจำนนกับโชคชะตา
การอยู่ในโลกที่กระแสมายาเชี่ยวกรากเพื่อแสวงหาความสำเร็จสมปรารถนาในชีวิต ก็เหมือนคนดำน้ำลงไปหาขุมทรัพย์ หากดำน้ำโดยไม่มีเชือกผูกโยงไว้จากจุดที่ลงไป กระแสใต้น้ำที่มีแรงดันสูงก็จะพัดพาตนให้ไหลออกห่างจากฝั่งไปเรื่อยๆ โผล่พ้นน้ำขึ้นมาอีกครั้งก็หลุดจากจุดที่ลงไปไกลสุดกู่ กลายเป็นคนหลงทางถาวร โลกเดิมที่เราคุ้นเคยนั้นเปลี่ยนไปแล้วมหาศาล กางแผนที่ชีวิตให้ดี อย่าให้หมุดหมายหลุดหายไป
วันใดที่เห็นแท่งหินลอยน้ำได้ อย่าคิดว่านั่นคือสิ่งมหัศจรรย์ แต่จงรู้ว่ามันคือความวิปริตที่เป็นวิบัติภัยของโลกต่างหาก มันมาถึงแล้ว และจะแกร่งไปเรื่อยๆ แต่จงเชื่อเถิดว่าไม่มีอะไรแกร่งเกินกรรม
อย่ากลัวกรรมเก่า แต่จงเร่งสร้างกรรมดีใหม่เป็นเกราะกำบังชีวิต เป็นที่พึ่งอาศัยให้ชีวิต เป็นบันได เป็นสะพานหนุนส่ง ให้พ้นจากภัยพิบัติ พ้นจากความล่อลวง เพื่อให้อนาคตที่จะมาถึงเป็นอนาคตแห่งความผาสุก ความสมปรารถนา และการได้พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
สะสมความงดงามแบบหินอ่อน
อย่าดำรงอยู่ เพื่อกลายเป็นอาหารของเต่าและปลา
อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล