
Art Mode ฉบับนี้พาขับรถออกนอกเมืองมาไม่ไกล ไปเสพศิลป์ เติมสติ ที่หอมนสิการ จ.สระบุรี ซึ่งหลายคนคงรู้จักจากการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เป็นจุดหมาย UNSEEN ของประเทศมาแล้ว แต่ครั้งนี้เราจะมาเจาะลึกความเป็นอาร์ตแกลเลอรีร่วมสมัย และอัปเดตโซนใหม่ที่เพิ่งปรับโฉมล่าสุด เพิ่มประสบการณ์การเข้าชมด้วยเทคโนโลยีอิมเมอร์ซีฟในบรรยากาศเสมือนจริง นอกจากได้ซึมซับงานศิลปะและความตื่นตาตื่นใจกับแสง สี เสียงแล้ว ยังให้ความรู้สึกเต็มอิ่มในใจกลับออกมาด้วย
สำรวจสถาปัตยกรรมร่วมสมัย
ก่อนจะเข้าสู่นิทรรศการหลักด้านใน เราขอพาไปเดินชมอาคารสีขาวนวลที่ทอดตัวยาวโดยมีภูเขาหินปูนตั้งโดดเด่นเป็นฉากหลังกันก่อน แบบร่างเริ่มแรกของหอมนสิการ ออกแบบโดยอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล ประธานมูลนิธิโนอิ้ง บุดด้า เพื่อการปกป้องพระพุทธศาสนา ผู้วางแนวคิดโครงการและรูปแบบสถาปัตยกรรมทั้งภายนอกและภายใน ลวดลายปูนปั้นวิจิตรบรรจง ตั้งแต่หน้าบันจนถึงผนังโดยรอบออกแบบผูกลายขึ้นใหม่โดยคุณนาคนิมิตร สุวรรณกูฏ ศิลปินและนักออกแบบผู้เป็นทายาทของศิลปินชั้นครูระดับตำ นาน คุณไพบูลย์ สุวรรณกูฏศิษย์รุ่นแรกของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เพิ่มความงดงามอ่อนช้อยให้กับตัวอาคารตั้งแต่แรกเห็น โดยได้แรงบันดาลใจจากศิลปะอินเดีย ยุควิกตอเรีย และสุโขทัย

ย้อนเวลาสู่ยุคพุทธกาล
นิทรรศการด้านในแบ่งเป็น 3 โซน เริ่มต้นด้วยโซนแรก“Journey to the Life of Buddha” พาย้อนเวลาไปพบกับการเดินทางของพระพุทธเจ้า โดยผู้เข้าชมจะได้ “เดิน” ผ่านโถงทางเดินอุโมงค์ขนาดย่อมในบรรยากาศแบบโบราณ ราวกับหลุดไปยังสมัยพุทธกาลเมื่อ 2,500 ปีก่อน แต่ละห้องจัดแสดงเรื่องราวพุทธประวัติในแบบ Interactive ให้เราได้ค่อยๆ ซึมซับและรับรู้ผ่านสัมผัสทั้ง 5 ในทุกช่วงเวลาชีวิตและการตัดสินใจครั้งสำ คัญของพระพุทธเจ้า ตอบคำ ถามที่หลายคนอาจสงสัยว่าทำ ไมพระองค์ถึงทรงทิ้งครอบครัวและความสุขสบายในพระราชวังแล้วออกผนวช ทรงฟันฝ่าอุปสรรคมามากเพียงใดและพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร โดยรับฟังผ่านหูฟังส่วนตัวที่มีเสียงบรรยายให้เลือกถึง 9 ภาษา
ช่วงที่ประทับใจที่สุดคือห้องสุดท้าย คำบรรยายที่เข้าใจง่ายประกอบกับการจัดแสงและวิดีโอที่เสมือนเราเข้าไปรับรู้ความรู้สึกนึกคิดของพระพุทธเจ้าในช่วงเวลาที่พระองค์ตรัสรู้อย่างใกล้ชิด ซึ่งถ่ายทอดโมเมนต์ยิ่งใหญ่อันเป็นจุดเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา และเส้นทางแห่งการเปิดปัญญาสู่ความรู้แจ้งและพ้นทุกข์ในที่สุด
ชมความงดงามของงานศิลป์ในหอกราบ
ทันทีที่ก้าวเข้าสู่โซนถัดมา สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือห้องสีทองอร่ามตระการตา ตกแต่งด้วยผ้าไหมสีแดงและแชนเดอ-เลียร์ระยิบระยับ ให้บรรยากาศต่างจากห้องก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง ความพิเศษอยู่ที่ผนังห้องบุด้วยผ้าไหมแท้จาก AnticoSetificio Fiorentino บริษัทเก่าแก่ในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ซึ่งเคยทอผ้าให้พระราชวังเครมลินและหอศิลป์อุฟฟีซี
ภายในห้องเป็นที่ประดิษฐาน “พระบรมโลกนาถ”พระพุทธรูปศิลปะอินเดียที่มีลักษณะเสมือนจริงกับมนุษย์เพื่อให้รู้สึกใกล้ชิดพระพุทธเจ้ามากที่สุด พร้อมพระบรมสารีริกธาตุ และภาพปักพระบรมโลกนาถที่ใช้มือปักถึง651,000 ฝีเข็ม

เดินทางสู่ภายในใจ
โถงทางเดินฝั่งขาออกถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นจริงรอบตัวที่เชื่อมโยงกับชีวิตในโลกปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นความเชื่อที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริง การทำบุญแต่ไม่หยุดทำบาปและจุดหมายปลายทางของนรกหรือสวรรค์ที่คุณเลือกได้ ด้วยเทคโนโลยีการจัดแสดง กิมมิกต่างๆ ระหว่างทาง และการร้อยเรียงเรื่องราวที่ชวนให้เดินทางกลับเข้ามาย้อนดูใจของเรา ทำให้โซนนี้กลายเป็นพื้นที่ให้ได้ตั้งคำถามและทบทวนตัวเอง เช่นเดียวกับความหมายของ “มนสิการ” ที่แปลว่า การพิจารณาอย่างแยบคาย
Immersive Journey
ต่อด้วยห้องสุดท้ายที่ตื่นตาตื่นใจไม่น้อยกับการจัดแสดงภาพเขียนพระโพธิสัตว์กวนอิม ปางจ้งเป่า ขนาดกว่า 3 เมตรผลงานมาสเตอร์พีซของอาจารย์หวัง ฉางลี่ ศิลปินระดับหอเกียรติยศแห่งชาติ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีมูลค่าถึง170 ล้านบาท วาดด้วยสีที่ได้จากอัญมณีและแร่ธรรมชาติ โดยใช้เทคนิคเน้นจังหวะการตวัดพู่กัน และการเปลี่ยนสีหมึกเพื่อสร้างชั้นสีที่หลากหลาย จนเกิดเป็นลายเส้นอ่อนช้อยที่ทำ ให้ภาพดูพลิ้วไหวราวกับมีชีวิต

ไฮไลต์ปิดท้ายด้วยการนำ เสนอความเป็นหนึ่งเดียวของธรรมะและการบรรจบกันของเถรวาทและมหายาน โดยใช้เทคโนโลยีการฉายภาพบนพื้นและผนังรอบตัว 360 องศาทำให้ไม่ว่าจะยืนอยู่จุดไหนก็สัมผัสถึงความอลังการได้แบบไม่มีอะไรมากั้น

หอมนสิการ และ By The Hill Cafe ตั้งอยู่ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรีเปิด อังคาร-ศุกร์ 10.00-17.00 น. l เสาร์-อาทิตย์ 09.30-18.00 น.(หยุดทุกวันจันทร์)
**เปิดให้เข้าชมกรุ๊ปสุดท้ายของแต่ละวัน ก่อนเวลาปิดท้าการ 30 นาที
manasikarn.com | FB: หอมนสิการ (Manasikarn)
โทร. 09 5760 0885
—
ดูเนื้อหาทั้งหมดโดยการสมัครสมาชิก หรือซื้อที่ Shopee
