
วัฒนธรรมการนอนกลางวันเป็นสิ่งที่มีมานานแล้วในบางประเทศ เช่น สเปนและอิตาลี ที่เรียกว่า Siesta ในขณะที่บางประเทศกลับมองว่าคนที่นอนกลางวันคือคนขี้เกียจ และอนุญาตให้พนักงานงีบได้แค่บางสาขาอาชีพเท่านั้น แต่นักวิทยาศาสตร์ด้านสมองพบว่า การงีบสั้นๆ เพียง 6 นาทีก็ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับสมองทั้งทางอารมณ์ และความคิด โดยการงีบไม่ควรนานกว่า 30 นาที มิเช่นนั้นความเฉื่อยชาจะเข้ามาแทนที่ ผลการศึกษาองค์การนาซ่า (NASA) แสดงให้เห็นว่าการงีบ 10-20 นาทีช่วยให้สมองตื่น ตัวเพิ่มถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้งานออกมาดีขึ้นมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
ภาพพจน์คนนอนกลางวันเริ่มดีขึ้นมาบ้างหลังจากช่วงโรคระบาดโควิด หลังจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดตีพิมพ์ผล การวิจัยว่า กว่า 1 ใน 3 ของพนักงานประจำ 1,250 คนที่ทำงานจากบ้านนอนกลางวัน แต่ไม่กระทบกับผลงานแต่อย่างใด ปัจจุบันบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ ของอเมริกาได้มีการเตรียมพื้นที่งีบให้พนักงานเป็นสัดเป็นส่วนด้วย เช่น สตาร์ตอัป Exa และบริษัทไอศกรีมยักษ์ใหญ่ Ben & Jerry’s มีห้องนอนในสำนักงานใหญ่มากว่า 20 ปี รวมไปถึงผู้บริหารสื่อดังของ Huffington Post อย่าง Arianna Huffington และ ของ NVIDIA อย่าง Kristen Perez ที่มีมุมสำหรับงีบในห้องทำงานส่วนตัว
ถ้ายังรู้สึกผิดต่อการนอนกลางวันล่ะก็ ขอบอกว่าคนดังระดับโลกอย่าง เอดิสัน ไอน์สไตน์ เลโอนาร์โด ดา วินชี และ นักการเมืองดังๆ ทุกยุคทุกสมัยต่างก็เป็นนักงีบตัวยง ขอแถมด้วยผลการศึกษาผู้เข้าร่วมกว่า 35,000 คนที่มีอายุระหว่าง 40-69 ปี ของ UK Biobank ซึ่งยืนยันว่าคนที่นอนกลางวันเป็นประจำ มีขนาดสมองที่ใหญ่กว่า นั่นหมายถึงสมองคนกลุ่มนี้ฝ่อช้ากว่าคนรุ่นเดียวกัน สรุปคือ สายงีบเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมน้อยกว่าสายถ่างตาต่อไปถ้าสมองล้า ลองงีบสักนิด แล้วสมองจะอยากอยู่กับคุณไปนานๆ