เราทุกคนมักจะมีเมนูประจำที่เข้าขั้นสิ้นคิด เมื่อจนปัญญาว่ากินอะไรดี ก็วนมาสั่งอาหารจานเดิมๆ สำหรับคนไทยคงไม่พ้นข้าวไข่เจียว หรือข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาว ส่วนหลายชนชาตินั้น เมนูที่ว่าเป็นเมนูไข่ ตั้งแต่ไข่ต้มโรยเกลือพริก ไทย ไปจนถึงออมเล็ตไส้ต่างๆ แต่สำหรับคนที่นิยมกินบรันช์ล่ะ ก็ ไข่เบเนดิกต์ (Eggs Benedict) คือตัวเลือกต้นๆ เพราะมันรวบยอดทั้งโปรตีน แป้ง และผัก ทำให้เมื่อกินแล้วรู้สึกอิ่มท้องทีเดียว
ที่มาของไข่เบเนดิกต์เกิดจากความจำเป็น ณ ตอนนั้น ผสมผสานกับจังหวะประจวบเหมาะ โดยเชื่อว่ามันมีถิ่นกำเนิด ที่นครนิวยอร์ก ช่วงปี 1800s เมื่อลูกค้าประจำของภัตตาคาร Delmonico’s Restaurant ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นร้านอาหารประเภท ไฟน์ ไดนิ่งที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ นามว่า เลอกรองด์ เบเน ดิกต์ ไม่รู้สึกอยากกินอาหารที่อยู่ในเมนูเลยขอให้เชฟคิดค้นจานใหม่ๆ ให้หน่อย และสูตรอาหารจานนี้ได้ถูกบันทึกและตีพิมพ์ในหนังสือ The Epicurean เมื่อราว 120 กว่าปีที่แล้ว
อีกตำนานมาจากคำขอของ เลอมูเอล เบเนดิกต์ นักเล่นหุ้นชาวอเมริกัน ซึ่งตอนนั้นเขาพักอยู่ที่โรงแรมวอลดอร์ฟ และปวดหัวอย่างหนักจากอาการเมาค้าง เบเนดิกต์ขอให้เชฟโรงแรมเสิร์ฟอาหารเช้าเป็นขนมปังปิ้ง เบคอน ไข่ดาวน้ำ และ ซอสออล็องเดส แทนที่อิงลิชมัฟฟินและแฮมตามปกติ
เหตุผลสำคัญที่ทำให้อาหารจานนี้อยู่ยงคงกระพัน เพราะเราสามารถใช้ส่วนผสมท้องถิ่นแทนที่ส่วนผสมดั้งเดิม (ขนมปัง ปิ้งทาเนย เบคอน ไข่ดาวน้ำ ซอสออล็องแดซ) ทำให้เราได้เห็นผักต่างๆ เข้ามา โดยถ้ามีผักโขม ก็จะกลายเป็น Florentine Eggs Benedict ใครที่ชอบอาหารทำสดใหม่ ใช้เวลาน้อย มีคุณประโยชน์ครบถ้วน ต้องจานนี้เลย
