
นโยบายสงแวดล้อม
จะพาโลกเดินหน้าหรอถอยหลัง
เมื่อ “โดนัลด์ ทรัมป์” กลับเข้าสู่ทำเนียบขาวอีกครั้งในปี ค.ศ. 2025 คำถามที่หลายคนจับตามองคือ นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของเขาจะเป็นอย่างไร ในสมัยแรก (ค.ศ. 2017-2021) ทรัมป์ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมพลังงานฟอสซิลมากกว่าปัญหาโลกร้อน และดูเหมือนว่านโยบายของเขารอบนี้ก็ยังเดินหน้าไปในทิศทางเดิม คือ เดินหน้าสนับสนุนการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยถูกจำกัด เช่น เขตอาร์กติก เป้าหมายคือกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดราคาพลังงาน และสร้างงานให้คนอเมริกัน แต่ด้านนักสิ่งแวดล้อมกลับมองว่านี่เป็นการเร่งให้เกิดภาวะโลกร้อน และทำลายระบบนิเวศที่เปราะบาง
นอกจากการสนับสนุนเชื้อเพลิงฟอสซิลแล้ว ทรัมป์ยังไม่ค่อยปลื้มกับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า เขามองว่ารัฐบาลไม่ควรให้เงินอุดหนุนหรือสิทธิประโยชน์ทางภาษีกับอุตสาหกรรมนี้ เพราะอาจกระทบต่อธุรกิจน้ำมันและรถยนต์แบบดั้งเดิม ซึ่งสวนทางกับนโยบายของโจ ไบเดน ที่พยายามผลักดันให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์
และแน่นอนว่าเมื่อทรัมป์ประกาศนโยบายเหล่านี้ กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม อย่าง “Fridays for Future” และ “Sunrise Movement” ก็ออกมาคัดค้านอย่างหนัก พวกเขากังวลว่าหากไม่มีมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โลกอาจต้องเผชิญกับภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้น ทั้งคลื่นความร้อน ไฟป่า และพายุที่รุนแรงกว่าเดิม ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคน
ดูเนื้อหาทั้งหมดโดยการสมัครสมาชิก หรือซื้อที่ Shopee