หากการเป็นคนดังในวงการบันเทิงมีชื่อเสียงเบอร์ต้นๆของ ประเทศคือความฝันที่ต้องไปให้ถึงของเด็กส่วนใหญ่โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลแล้วล่ะก็ สำหรับเด็กชายธนชัย อุชชินคง เปรียบเสมือนฝันร้ายที่ต้องรีบตื่นให้เร็วที่สุด เพราะแค่การสอบ ได้ที่ 1 ติดกันทุกปี และการได้รับเสียงชื่นชมในวัยประถม ก็ทำให้ เขาเครียดจนนอนไม่หลับมาแล้ว การแบกรับชื่อเสียงสำหรับเด็ก คนนั้นจึงเป็นสิ่งที่เกินรับไหวเป็นแน่
และเมื่อเขาเปิดตัวในฐานะนักร้องนำ ของ Moderndog วงอัลเทอเนทีฟ ร็อกเมื่อปี 2537 ชื่อของป๊อด โมเดิร์นด็อก ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของการพลิกโฉมหน้าวงการดนตรีของไทย เริ่มต้นยุคโมเดิร์นร็อก ศิลปินคนแรกของค่ายเบเกอรี่มิวสิค เจ้าของผลงานเพลง “บุษบา” จากอัลบั้มเปิดตัว “เสริมสุขภาพ” เป็นเพลงที่สร้างสถิติฮิตติดชาร์ตเพลง 1 ปีเต็มเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับความเครียดและความกดดันจากความสำเร็จอีกครั้งจนได้ ซึ่งอาการนี้เจ้าตัวได้ค้นพบในภายหลังว่ามันคือการ “ติดดี” นั่นเอง
ครั้งนี้เขาตัดสินใจไม่หยุดแค่การหาข้อมูลจากหนังสือ แต่พุ่งชนกับมันแทนด้วยการไปฝึกปรือเพิ่มวิทยายุทธไกลถึงเมืองนอก ก่อนที่จะจบลงที่การหันมาฝึกปรือวิทยายุทธที่“ใจ” ตัว เอง ทันทีหลังออกอัลบั้มที่ 2 (คาเฟ่) ด้วยการไปบวชและฝึกฝนการปฏิบัติภาวนา
ผ่านมาแล้ว 30 ปี วันนี้เขาได้มาเล่าให้ฟังถึงการเดินทางก้าวข้ามความกลัว จนสามารถยิ้มรับสถานะไอดอลตลอดกาลของคน ยุค 80s มาจนถึงเด็กเจนวายไม่รู้สึกว่าความเป็น Rockstar เป็นภาระที่หนักอึ้งอีกต่อไป
ก่อนอื่นเลย ต้องกล่าวสุขสันต์วันเกิดนะคะ เป็นอย่างไรบ้างปีนี้
ขอบคุณมากจริงๆ แล้วเป็นคนที่ไม่ค่อยได้โฟกัสกับเรื่องวันเกิด แต่ว่าปีนี้วันเกิดตรงกับช่วงเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตที่ Tokyo Dome ประเทศญี่ปุ่นพอดี แล้ว 4 วันหลังจากวันขึ้นเวทีก็เป็น วันเกิดพอดี ซึ่งน้องๆ ในทีมที่ไปด้วยกันก็แอบแพลนว่าจะออกไป เที่ยวนอกเมือง ได้นอนรีสอร์ตที่เห็นภูเขาไฟฟูจิ ปีนี้เลยเป็นวันเกิดที่ได้ใช้เวลากับธรรมชาติที่ต่างประเทศ
ปกติวันเกิด ทำอะไรบ้างคะ
เป็นวันปกติเลย ถ้ามีคนจ้างก็ไปเหมือนวันทั่วไปเลย จริงๆ เคยคิดจะซ่อนวันเกิดในโซเชียลมีเดียด้วย แต่ซ่อนไปก็เท่านั้น เพราะมันลงในสื่ออื่นๆ หมดแล้ว (หัวเราะ) ส่วนตัวไม่ใช่คนชอบอะไรเอิกเกริก เพราะเป็นคนขี้เกรงใจ
โพรเจกต์ช่วงนี้
ก็จะเป็นโพรเจกต์เพลงทั้ง 3 อันเลย อันแรกคือทำงานกับพี่ บอย โกสิยพงษ์ เหมือนที่ทำก่อนหน้า อันที่ 2 เป็นเพลงวินเทจ คำว่าเพลงวินเทจคือเพลงที่มีสำเนียงโบราณหน่อย แต่จะโบราณในยุคไหน เดี๋ยวลองฟังกันดู (เหมือนเพลงเสน่หาหรือไม่) ใหม่ขึ้น แล้วอีกอันคือ โพรเจ็กต์ที่ทำชุดแรกไปแล้วคือ Balloon Boy ตอนนี้กำลังทำชุด 2 เพราะไม่รู้จะพูดเรื่องอะไร ที่เลือกหยิบตัวนี้ขึ้นมา เพราะกำลังทำเมโลดีตัวนี้ไปแล้วประมาณ 3 ปี ทั้งหมด 12 เพลง แต่ค้างอยู่เพราะยังไม่มีเนื้อเพลง
ที่ไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องอะไร เพราะชีวิตช่วงที่ผ่านมา มันยังไม่มีอะไรที่รู้สึกว่าจะแชร์ได้หรือยังไงคะ
อืม (หยุดคิดครู่หนึ่ง) มันไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอยากจะแชร์หรือไม่ แต่แค่ว่า เดี๋ยวนี้พอรู้สึกอะไร เราก็รู้สึกแล้วสักพักก็จบลงตรงนั้น
ปกติศิลปินจะเขียนเพลงจากประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง ในเคสนี้สังเกตว่า เวลาทำอัลบั้มจะออกหลังจากค้นหาตัวเองได้ครั้งหนึ่ง แล้วก็หายไป พอกะเทาะตัวเอง เรียนรู้อะไร เพิ่มเติมก็กลับมาอีกครั้ง แต่ช่วงนี้นานเป็นพิเศษ ล่าสุดที่ออกอัลบั้มคือปี 2559 เป็นการเว้นระยะนานเป็นพิเศษ เป็น เพราะเหตุผลข้างต้นหรือไม่
ต้องบอกว่าเราเปลี่ยนวิธีการสื่อสารหรือการแสดงออกไป ทางการวาดภาพ โดยเฉพาะภาพแนว Abstract Art (ศิลปะ นามธรรม) ที่มันไม่มีใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร
ฟังแล้วคล้ายกับตอนที่ออกอัลบั้มที่ 3 (Love Me Love My Life) ที่บอกว่า ไม่ได้อยากให้ใครเข้าใจ ต้องการให้เพลงฟัง ไม่รู้เรื่อง จะได้ล้มเหลว
ตอนนั้นเรายังเด็กเลยไม่เข้าใจสิ่งที่ทำ แต่พอโตขึ้นถึงเข้าใจว่า มันคือกระบวนการ Downsize คือการลดขนาดของความคาดหวังทั้งของตัวเองและคนรอบข้าง คือทำยังไงก็ได้ให้คนออกจากความสนใจในตัวเรา
เพราะความเครียด ความกดดันว่าต้องประสบความสำเร็จมากกว่าอัลบั้มก่อนหน้า
มันใช่เลย เพราะเราก็เป็นเด็กอายุ 23 ปีคนหนึ่งที่ออกอัลบั้ม แรกก็เปรี้ยงเลย แล้วเด็ก 23 ปีคนนั้นไม่ได้มี Mentor ต้องจัดการความรู้สึกนั้น รวมทั้งสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาด้วยตัวเอง
อ่านฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารข้ามห้วงมหรรณพ ฉบับที่ 58 สมัครสมาชิก คลิ๊กที่นี่
สำหรับลูกค้าในประเทศ