Skip to content Skip to footer

ที่มาของ รอยยิ้ม แสนสดใส

ประโยค “ถ้าเรายิ้ม โลกก็จะยิ้มไปกับเราด้วย” อันเป็นชื่อเพลงสุดคลาสสิกที่แต่งขึ้นตั้งแต่ยุคแกสบี้ยังคงคลาสสิก เสมอ แม้หลายคนอาจไม่เห็นด้วยนัก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เรามักอดยิ้มตามไม่ได้ยามได้เห็นใบหน้าที่มีรอยยิ้มโดยเฉพาะตัวการ์ตูนหน้าตาแป้นแล้นยิ้มแฉ่งอย่างเจ้าอิโมจิชื่อดังอย่าง สไมลีย์ (Smiley) ลายเส้นสีดำเข้มบนใบหน้าสีเหลืองสดใส

ที่มาของสไมลีย์ที่ทั่วโลกรู้จักกันนั้นเรียบง่ายเหมือนเส้นสายของมัน โดยผู้ให้กำเนิดมันนั้นคือ ฮาร์วีย์ รอส บอล กราฟิก ดีไซเนอร์ ได้รับการว่าจ้างจากบริษัทประกันภัยให้ออกแบบตัวการ์ตูนอะไรก็ได้ที่จะช่วยให้พนักงานเห็นแล้วมีความสุขในการทำงานมากขึ้น เขาจึงนั่งลงและใช้เวลาเพียง 10 นาทีวาดวงกลม พร้อมใส่ลูกตาสีดำ และรอยยิ้มสดใสบนกระดาษสีเหลือง ด้วยเหตุผลว่า สีเหลืองโทนนี้ทำให้นึกถึงแสงแดดอันเจิดจ้า ทันทีที่ผู้บริหารเห็นก็ชอบใจมาก และอนุมัติสั่งจ่ายค่าจ้าง 45 เหรียญ (เท่ากับ 448 เหรียญในสมัยนี้) โดยไม่ลังเล

ทันทีที่สไมลีย์ปรากฏโฉมบนโปสเตอร์และเข็มกลัดพนักงาน มันได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ใครเห็นต่างก็ชอบอกชอบใจ ดีไซน์ที่แสนเรียบง่ายทำให้บริษัทและบอลไม่คิดเรื่องจดลิขสิทธิ์ แต่คนที่มอบชื่อ สไมลีย์ อย่างเป็นทางการกลายเป็นนักข่าวชาวฝรั่งเศส แฟรงคลิน ลูฟรานี โดยหลังจากที่เขาจดทะเบียนสัญลักษณ์นี้แล้ว ก็ก่อตั้งบริษัท The Smiley Company เพื่อสร้างรายได้ โดยการขายสิทธิ์ให้บริษัทอื่นๆ นำไปใช้ ซึ่งลูกค้าของเขานั้นมีนับร้อยราย ตั้งแต่บริษัทผลิตของเล่น เครื่องเขียน จนถึงสินค้าแบรนด์เนมอย่าง Fendi และ Karl Lagerfeld ทำรายได้หลายล้านเหรียญต่อปีในปัจจุบัน