ไต้หวันไม่ได้มีแค่ไทเปนะคะ ! ถ้าคุณกำลังมองหาทริปที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงาม เส้นทางนี้คือคำตอบ เส้นทางเกาสง-เจียอี้-ไถหนาน อาจไม่ได้อยู่ในแพลนของใครหลายๆ คนเวลาวางแผนเที่ยว ไต้หวัน แต่ขอรับรองว่าคุณจะประทับใจกับทั้งวัฒนธรรมเก่าแก่ ที่ผสมผสานกับความทันสมัย อาหารที่อร่อย และบรรยากาศที่อบอุ่นจนอยากกลับไปอีกครั้ง
Kaohsiung: ความลงตัวระหว่าง ประวัติศาสตร์และความทันสมัย
เริ่มต้นกันที่เกาสง เมืองใหญ่เป็นอันดับสองในไต้หวัน ที่มีครบทั้งวัฒนธรรม ศิลปะ ธรรมชาติ และอาหาร และเป็นจุด เริ่มต้นที่ดีสำหรับการสำรวจไต้หวันตอนใต้ ฉันประทับใจมากที่เมืองนี้สามารถผสมผสานประวัติศาสตร์เก่าแก่เข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว การเดินทางนั้นก็ง่ายมากๆ ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ทั้ง MRT รถรางเบา และจักรยานให้เช่า ที่สามารถเดินทางไปทุกจุดท่องเที่ยวสำคัญๆได้ พร้อมแล้วก็ตามเรามาเลย
Pier-2 Art Center: แหล่งรวมศิลปะกลางเมือง
ที่นี่เต็มไปด้วยงานศิลปะกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่ดูน่าตื่นเต้น และมีชีวิตชีวา รับรองเลยว่าถ่ายรูปออกมาสวยทุกมุมแน่นอน ฉันชอบแวะโซนขายของทำมือเป็นพิเศษ เพราะมีทั้งเครื่องประดับ งานคราฟต์ และสินค้าเก๋ๆ ที่ซื้อกลับมาเป็นของฝากได้ นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่ชิกๆ มากมายที่เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อน หลังจากเดินชมงานศิลปะ ใครที่รักศิลปะและงานคราฟต์ต้องไม่พลาดที่นี่เด็ดขาด
Burano เกาสง (高雄彩色島): จุดถ่ายรูปที่เหมือน หลุดจากโปสต์การ์ด
高雄彩色島 หรือ Kaohsiung’s Burano เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเลย เราชอบที่นี่เพราะตัวอาคารหลากสีที่ ตั้งเรียงรายริมแม่น้ำเหมือนกับเมือง Burano ในอิตาลี แนะนำให้มาช่วงเย็น แสงอาทิตย์ตกจะทำให้ภาพถ่ายออกมาสวยมาก ที่นี่เหมาะสำหรับสายโซเชียลที่ชอบถ่ายรูปเก็บความประทับใจ หรือถ้าจะมานั่งชิลริมแม่น้ำก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ใครกำลัง มองหาจุดเช็กอินใหม่ๆ ที่น่ารักและไม่ซ้ำใคร แนะนำที่นี่เลย
Fo Guang Shan Monastery: วัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน
วัดฝอกวงซาน เป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวัน จุดเด่นของที่นี่คือพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางวิวธรรมชาติที่เงียบสงบ เดินไปตามเส้นทางในวัดก็ให้ความรู้สึกสงบใจมาก แถมภายในวัดยังสามารถลองอาหารมังสวิรัติที่รสชาติอร่อยจนลืมไปเลยว่าเป็นจานผัก ! ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ทั้งอิ่มใจและอิ่มท้องแน่นอน
Chiayi: เสน่ห์ของเมืองเล็ก และวัฒนธรรมที่อบอุ่น
เพียงแค่นั่งรถไฟความเร็วสูงจากเกาสง 35 นาที ก็จะ ได้สัมผัสกับเจียอี้ เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และอาหารอร่อย ! และมีความเป็นญี่ปุ่น “กรุบๆ” แทรกอยู่ทุกมุม เพราะเคยเป็นสถานที่สำคัญในยุคที่ญี่ปุ่น ปกครองไต้หวันนั่นเอง ด้วยที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางรถไฟอาลีซานที่สร้างขึ้นเพื่อขนส่งไม้ฮิโนกิคุณภาพดีจากภูเขาอาลีซานไปใช้งานที่ญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นจึงสร้างทั้งบ้านเรือน วัด และศาลา ทำการไว้ในเมืองนี้ รวมถึงมีการขุดบ่อน้ำ พุร้อนเพื่อให้คนงานได้ผ่อนคลายอีกด้วย
อาลีซาน (Alishan): จุดหมายปลายทางแห่งธรรมชาติ
อาลีซานถือเป็นไฮไลต์หากคุณมาเจียอี้ โดยเฉพาะในฤดูซากุระที่ภูเขาจะถูกย้อมด้วยสีชมพูหวานๆ ของดอกซากุระบานเต็มสองข้างทาง ยิ่งถ้าได้พักสักคืนแล้วได้มาชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ใครที่ชอบถ่ายรูปจะต้องฟินแน่นอน
อีกหนึ่งไฮไลต์คือการนั่งรถไฟสายอาลีซาน รถไฟสายนี้ จะพาคุณผ่านป่าสนที่มีอายุนับร้อยปี สูดอากาศบริสุทธิ์ และ เพลิดเพลินกับวิวเขียวขจี นอกจากนี้ยังมี Fenqihu Old Street ที่ขึ้นชื่อเรื่องข้าวกล่องรถไฟ (ข้าวกล่องที่นี่หมูชิ้นใหญ่มาก) และ ขนมอร่อยๆ อย่างโดนัตและชาอูหลงรสเยี่ยม รวมถึงจุดถ่ายรูป จึ้งๆ ช่วงซากุระบาน ที่เราเห็นภาพบนออนไลน์ก็มาจากจุดนี้ เช่นกัน
Tainan: หัวใจของประวัติศาสตร์ และอาหารไต้หวัน
เดินทางเพียง 20 นาทีโดยรถไฟความเร็วสูงจากเจียอี้ เราก็มาถึงเมืองไถหนาน เมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมเก่าแก่และ อาหารที่มีเอกลักษณ์ ฉันชอบไถหนานเพราะเมืองนี้เหมือนเป็น “อยุธยา” ของไต้หวัน ทั้งเรื่องประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่สะท้อนรากเหง้าวัฒนธรรมแบบจีนผสมผสานกับไต้หวันได้อย่างลงตัว
ที่นี่เต็มไปด้วยวัดโบราณ อาคารเก่าแก่ และรสชาติอาหาร ที่บอกเล่าความเป็นเมืองหลวงเก่าไว้อย่างชัดเจน อาหารในไถหนานมีความโดดเด่นด้วยรสชาติหวานที่สะท้อนความมั่งคั่งในอดีต ใครชอบเที่ยวแบบสายวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ต้องหลงรักที่นี่แน่นอน
เสน่ห์ไถหนาน : ถนนโบราณอันผิง (Anping Old Street)
หากอยากสัมผัสเสน่ห์ของไถหนาน ต้องไม่พลาดการเดินเล่นที่ถนนโบราณอันผิง ถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยร้านค้าเก่าแก่ที่ขายทั้งอาหารและของฝากพื้นเมือง อย่าลืมลองชิมไข่ปูทะเล และเต้าหู้ทอดที่ขึ้นชื่อของที่นี่ นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกสไตล์โบราณที่น่าสนใจ ใครเป็นสายเดินเล่นถ่ายรูปต้องไม่พลาดเลยค่ะ
เที่ยวพิพิธภัณฑ์ สัมผัสประวัติศาสตร์เมืองเก่า
เชื่อว่าสายประวัติศาสตร์จะชอบไถหนานเป็นเพิเศษ เพราะที่นี่มีพิพิธภัณฑ์เจ๋งๆ มากมาย เราขอแนะนำพิพิธภัณฑ์ พระราชวังแห่งชาติสาขาใต้ (Southern Branch of the National Palace Museum) ที่รวบรวมงานศิลปะและโบราณวัตถุจากทั่วภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน อินเดีย และญี่ปุ่น รวมถึงงานจากสาขาทางภาคเหนือผลัดเปลี่ยนวนเวียนมาให้ชมด้วย ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ก็สวยมาก ได้แรงบันดาลใจมาจากดีไซน์ที่ล้ำสมัยแต่ยังกลมกลืนกับธรรมชาติรอบข้าง ใครที่ชอบถ่ายภาพ สถาปัตยกรรมต้องได้มุมที่แปลกตาไม่เหมือนใครแน่นอนทั้งช่วง กลางวันและกลางคืน
ส่วนอีกแห่งที่เราจัดให้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ประทับใจ ที่สุดในไต้หวันคือ Chimei Museum หรือพิพิธภัณฑ์ฉีเหม่ย ซึ่ง มีบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในยุโรป ทั้งน้ำพุอะพอลโล ที่จำลองจากพระราชวังแวร์ซาย และอาคารที่ดูหรูหรา รวมถึงรูปปั้นเทพเจ้ากรีกเรียงรายอยู่สองข้างทาง ด้านในยังมีคอลเลกชัน ไวโอลินที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีการจัดแสดงประติมากรรม อาวุธโบราณ และงานศิลปะที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลอีกด้วย นอกจากนี้ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดถ่ายภาพยอดนิยมของไถหนาน อย่าลืมตรียมแบตเตอรี่กล้องหรือพาวเวอร์แบงก์มาให้พร้อมนะคะ
